มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20
แนวคิด "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20" ชุมทางยานยนต์ใหม่...ไทยสู่โลก
NEW AUTOMOTIVE HUB…FROM THAILAND TO THE WORLD
• เป็นเรื่องน่ายินดีที่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ได้ก้าวกระโดดจากจุดเริ่มต้นที่มีเพียงโรงงานผลิตยางรถยนต์ แบทเตอรี และแหนบตับ เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนสู่จุดที่กลายเป็นอุตสาหกรรมครบวงจรมูลค่านับแสนล้านบาทแล้วในปัจจุบัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ เป็นส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงปี 2540 "2541 ที่ดึงยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศทรุดลงถึงร้อยละ 70 ทว่าเหล่าผู้ประกอบการกลับสามารถแปรวิกฤตเป็นโอกาส โดยหันไปให้ความสำคัญกับการประกอบรถยนต์สำเร็จรูปเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่อย่างได้ผลแล้วยังเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่เป้าหมาย"ดีทรอยท์แห่งเอเชีย" อีกด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สายพานการผลิตเพื่อส่งออกของแทบทุกโรงงานในบ้านเราได้เดินเครื่องตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นแรงผลักดันสำคัญ ทั้งการให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่กิจการประกอบการรถยนต์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การอนุญาตให้ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ได้โดยเสรี รวมไปถึงการยกเลิกมาตรการบังคับใช้ชิ้นส่วนทีผลิตในประเทศสำหรับประกอบรถยนต์นั่งในปี 2543
เมื่อผนวกกับศักยภาพในการแข่งขันที่เหนือกว่าของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่มากความสามารถ หรือต้นทุนการผลิตที่สมเหตุสมผล ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้รถยนต์จากสายการผลิตในประเทศไทย ได้รับการเชื่อถือและการยอมรับด้านคุณภาพจากผู้ใช้ทั่วโลก ตลาดส่งออกของเราจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และไม่หยุดยั้ง จากยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพียง 14,020 คัน มูลค่า 4.2 พันล้านบาท ในปี 2539 เพิ่มเป็นถึง 175,299 คัน มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2544 (ข้อมูล: กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
กระทั่งบัดนี้ ไทยได้กลายเป็นชุมทางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของโลกไปแล้ว จากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายได้ระดมทุนมหาศาลเปิดโรงงานประกอบขึ้น พร้อมย้ายฐานการผลิตรถรุ่นสำคัญ ๆ ทั้งเก๋ง และพิคอัพมาที่นี่ ซึ่งส่งผลให้ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปี 2545 ที่ผ่านมา สูงถึงเกือบ 2 แสนคัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท และจะยิ่งสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ทั้งด้วยความเชื่อถือในคุณภาพการประกอบที่เหนือกว่ามาตรฐานอันเข้มงวดของประเทศผู้ผลิตเองและด้วยการขยายตัวของตลาด โดยเฉพาะเมื่อเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ได้เปิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้
ขณะเดียวกัน ในฐานะชุมทางการผลิตรถยนต์ของโลกแห่งใหม่ ความรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ทรงประสิทธิภาพที่สุด ย่อมหลั่งไหลมาสู่ประเทศไทยอย่างคึกคัก อันจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาการ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้
ดังนั้น เพื่อร่วมภาคภูมิใจ และเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เราจึงกำหนดคำขวัญประจำงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20 ว่า "ชุมทางยานยนต์ใหม่...ไทยสู่โลก" (NEW AUTOMOTIVE HUB FROM THAILAND TO THE WORLD)
NEW AUTOMOTIVE HUB…FROM THAILAND TO THE WORLD
• เป็นเรื่องน่ายินดีที่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ได้ก้าวกระโดดจากจุดเริ่มต้นที่มีเพียงโรงงานผลิตยางรถยนต์ แบทเตอรี และแหนบตับ เมื่อไม่กี่สิบปีก่อนสู่จุดที่กลายเป็นอุตสาหกรรมครบวงจรมูลค่านับแสนล้านบาทแล้วในปัจจุบัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ เป็นส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงปี 2540 "2541 ที่ดึงยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศทรุดลงถึงร้อยละ 70 ทว่าเหล่าผู้ประกอบการกลับสามารถแปรวิกฤตเป็นโอกาส โดยหันไปให้ความสำคัญกับการประกอบรถยนต์สำเร็จรูปเพื่อป้อนตลาดต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เผชิญอยู่อย่างได้ผลแล้วยังเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่เป้าหมาย"ดีทรอยท์แห่งเอเชีย" อีกด้วย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สายพานการผลิตเพื่อส่งออกของแทบทุกโรงงานในบ้านเราได้เดินเครื่องตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นแรงผลักดันสำคัญ ทั้งการให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่กิจการประกอบการรถยนต์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การอนุญาตให้ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ได้โดยเสรี รวมไปถึงการยกเลิกมาตรการบังคับใช้ชิ้นส่วนทีผลิตในประเทศสำหรับประกอบรถยนต์นั่งในปี 2543
เมื่อผนวกกับศักยภาพในการแข่งขันที่เหนือกว่าของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่มากความสามารถ หรือต้นทุนการผลิตที่สมเหตุสมผล ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้รถยนต์จากสายการผลิตในประเทศไทย ได้รับการเชื่อถือและการยอมรับด้านคุณภาพจากผู้ใช้ทั่วโลก ตลาดส่งออกของเราจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และไม่หยุดยั้ง จากยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพียง 14,020 คัน มูลค่า 4.2 พันล้านบาท ในปี 2539 เพิ่มเป็นถึง 175,299 คัน มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท ในปี 2544 (ข้อมูล: กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)
กระทั่งบัดนี้ ไทยได้กลายเป็นชุมทางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของโลกไปแล้ว จากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายได้ระดมทุนมหาศาลเปิดโรงงานประกอบขึ้น พร้อมย้ายฐานการผลิตรถรุ่นสำคัญ ๆ ทั้งเก๋ง และพิคอัพมาที่นี่ ซึ่งส่งผลให้ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปี 2545 ที่ผ่านมา สูงถึงเกือบ 2 แสนคัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท และจะยิ่งสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ทั้งด้วยความเชื่อถือในคุณภาพการประกอบที่เหนือกว่ามาตรฐานอันเข้มงวดของประเทศผู้ผลิตเองและด้วยการขยายตัวของตลาด โดยเฉพาะเมื่อเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ได้เปิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้
ขณะเดียวกัน ในฐานะชุมทางการผลิตรถยนต์ของโลกแห่งใหม่ ความรู้ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ทรงประสิทธิภาพที่สุด ย่อมหลั่งไหลมาสู่ประเทศไทยอย่างคึกคัก อันจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาการ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้
ดังนั้น เพื่อร่วมภาคภูมิใจ และเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เราจึงกำหนดคำขวัญประจำงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20 ว่า "ชุมทางยานยนต์ใหม่...ไทยสู่โลก" (NEW AUTOMOTIVE HUB FROM THAILAND TO THE WORLD)
