ซื้อรถอย่างไร? ให้คุ้มค่า

เชื่อว่าหากระบบสาธารณูปโภค บ้านเรามีความสะดวกสบายมากกว่านี้ หลายท่านคงไม่จำเป็นต้องการมีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้กันมากมายขนาดนี้หรอก จริงไหม ? ... สิ่งสำคัญที่สุด หลายคนต้องการซื้อรถเพื่อความสบายในการเดินทาง ไม่ต้องไปเบียดเสียดบนรถประจำทางหรือการขนส่งสาธารณะกับคนอื่น ทว่า...การมีรถสักคันอาจไม่ใช่เรื่องง่าย...สำหรับบางคน

ฉะนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องรู้ สำหรับมือใหม่ "ก่อนวางแผนซื้อรถ" ต้องศึกษาโปรโมชันจากสื่อต่างๆ เพื่อจะได้ข้อต่อรอง โดยเฉพาะค่ายรถที่เราสนใจ ซึ่งนอกจากโปรโมชันของรถแล้ว "เราควรซื้อด้วยเงินสดหรือเงินผ่อน" และเราต้องทราบโปรโมชันของบรรดาสถาบันการเงินด้วยเช่นกัน ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยในการช่วยอำนวยความสะดวกในการตัดสินใจซื้อ

เรามีแนวทางในการช่วยคุณตัดสินใจก่อนพิจารณาซื้อรถยนต์ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019” ซึ่งจะมีขึ้น ระหว่าง 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม มาฝาก ลองดูกันว่า  ซื้อรถอย่างไร ? ให้คุ้มค่า 

1. งบประมาณ 

ก่อนอื่นเลย ต้องดูงบในกระเป๋าเราก่อน เพราะถ้าซื้อรถที่มีราคาเกินกำลัง (เงิน) ที่เรามีละก้อ ความสบายที่หวังว่าจะได้รับก็อาจจะกลายเป็นความทุกข์ใจในภายหลัง เนื่องจากภาระการผ่อนรถที่ต้องแบกรับไว้หลายปี สิ่งสำคัญอย่าลืม คือ อย่าลืม! เตรียมสำรอง “ค่าใช้จ่ายหลังซื้อรถ” ไว้ด้วย และขอให้คิดไว้เสมอว่ามูลค่าของรถยนต์นั้นลดลงตลอดเวลา และชีวิตนี้เราคงไม่ได้ใช้รถเพียงคันเดียว อาจจะต้องมีการเปลี่ยนคันใหม่อีกไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อรถยนต์ในราคาที่พอจ่ายไหว และเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงเวลานี้ก็พอ

2. เลือกประเภทรถที่ต้องการ

ถ้าเรามีงบประมาณจำกัด เราควรเลือกประเภทของรถยนต์ที่อยู่ในงบของเรา เช่น มีงบประมาณ 3-4 แสนบาท ก็อาจเป็น รถอีโคคาร์  ซึ่งมีทั้งแบบแฮชแบ็ก 5 ประตู และ 4 ประตู หรือรถประเภทซิตี้คาร์ที่คันใหญ่ขึ้นมาหน่อย หรือรถยนต์นั่ง 4 ประตูขนาดเล็ก และที่สำคัญ อย่าซื้อรถประเภทที่เมื่อนำมาใช้งานจริงแล้วเกินความจำเป็น เช่น คิดว่าซื้อรถคันใหญ่ๆ ไว้ก่อน เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดจะได้นั่งสบายๆ นั่งได้หลายคน แต่ในความเป็นจริงมีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดแค่ปีละครั้งสองครั้ง และไปกันแค่ 3-4 คน ซึ่งรถพวกซิตี้คาร์ก็นั่งได้สบายๆ เช่นกัน

เพราะถ้าซื้อรถที่มีราคาเกินกำลัง (เงิน) ที่เรามีละก้อ ความสบายที่หวังว่าจะได้รับก็อาจจะกลายเป็นความทุกข์ใจในภายหลัง เนื่องจากภาระการผ่อนรถที่ต้องแบกรับไว้หลายปี สิ่งสำคัญอย่าลืม คือ อย่าลืม! เตรียมสำรอง “ค่าใช้จ่ายหลังซื้อรถ” ไว้ด้วย และขอให้คิดไว้เสมอว่ามูลค่าของรถยนต์นั้นลดลงตลอดเวลา และชีวิตนี้เราคงไม่ได้ใช้รถเพียงคันเดียว อาจจะต้องมีการเปลี่ยนคันใหม่อีกไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อรถยนต์ในราคาที่พอจ่ายไหว และเท่าที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงเวลานี้ก็พอ

3. ขนาดของรถ

ข้อนี้เกี่ยวเนื่องจากข้อ 2 ขนาดของรถก็จำเป็น หลายคนซื้อรถขนาดใหญ่ โดยลืมเรื่องสถานที่ที่อยู่อาศัยของตนเอง บางคนสถานที่จอดรถที่พักอาศัยคับแคบ จะจอด จะเลี้ยวเข้าก็แสนลำบาก ฉะนั้นเรื่องนี้ก็อย่ามองข้าม 

4. แบรนด์และการรับประกัน

จากความเป็นจริง ค่ายรถยนต์ในปัจจุบันที่มีจำหน่ายในบ้านเราส่วนใหญ่ต่างก็มีมาตรฐานทัดเทียมกันอยู่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีบางค่ายที่ระดับความน่าเชื่อถือยังน้อย หรือแม้ค่ายใหญ่ๆ บางค่ายที่เราคิดว่ามีมาตรฐาน แต่ก็ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับความบกพร่องเรื่องมาตรฐาน และการรับประกันหลังการขายให้กับลูกค้าอยู่ ดังนั้นการตัดสินใจเลือกว่าจะซื้อรถใหม่ของยี่ห้อไหนก็สำคัญเช่นกัน นอกจากจะเลือกยี่ห้อรถไหนแล้ว ก็ควรหาข้อมูลเฉพาะของรุ่นที่เราสนใจเป็นพิเศษ อาจดูได้จากเวปไซท์ เวปบอร์ดต่างๆ หรือ นิตยสารรถยนต์ชั้นนำ อาทิ นิตยสาร ฟอร์มูลา 4WHEELS MAGAZINE เป็นต้น

5. ส่วนลด และของแถมที่ควรจะได้รับ

 ปัจจุบันรถแต่ละรุ่นและละยี่ห้อ มีการแข่งขันกันสูง ฉะนั้นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ซื้อมือใหม่! ไม่ควรลืมที่จะทวงถาม ดังต่อไปนี้ ส่วนลด (หากเป็นรถเปิดตัวใหม่อาจไม่ได้ส่วนนี้), ดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ หากจำเป็นต้องผ่อนชำระ อย่าลืม ต่อรองดอกเบี้ยในการผ่อนชำระให้ต่ำที่สุด (ท่านสามารถปรึกษาเรื่องลิสซิ่งได้ภายในงานของเรา), ประกันภัยชั้น 1, จากเบาะผ้า ของแถมเป็นเบาะหนัง, ฟิล์มกันร้อนรอบคัน ฯลฯ 

6. ทดลองขับ

ก่อนเลือกซื้อรถควรต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านเครื่องยนต์ สมรรถนะ อัตราการสิ้นเปลือง/พลังงานทางเลือก รูปลักษณ์ภายนอก ภายใน ระบบความปลอดภัย ฯลฯ

แต่จะรู้ว่ารถคันไหนที่เหมาะกับเรานั้น จำเป็นต้องอาศัยการ "ทดลองขับ" เพื่อประกอบการตัดสินใจ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ Motor Expo 2019

การทดลองขับในงาน “มหกรรมยานยนต์” เรามีสถานที่จัดเตรียม "ทดลองขับ" ไว้เป็นอย่างดี และหลังจากที่ได้ลองขับคันที่เลือกแล้ว อาจจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณ มากกว่า "แค่สิ่งที่ชอบ" หรือถ้าไม่ถูกใจจะถอดใจ หรือเปลี่ยนแบรนด์ก็ยังทันอยู่ 

7. โอกาสในการขายต่อ

ถ้าคุณไม่ได้คิดว่าจะใช้รถรุ่นนั้นชนิดที่ว่าใช้กันยาวๆ 10-15 ปี ใช้กันจนคุ้มค่าตัวและค่าเสื่อมสภาพของรถ แต่คิดว่าจะใช้รถประมาณ 5-8 ปีแล้วจะเปลี่ยนคันใหม่ ก็ควรที่จะพิจารณารถตลาดที่ทำราคาขายต่อได้ดีๆ เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือพอสมควรจากการขายรถคันเก่าไว้ซื้อรถคันใหม่

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงหลักการ หรือปัจจัยเบื้องต้นประกอบการพิจารณา และตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่เท่านั้น ! ลองนำไปพิจารณาดู หากตัดสินใจได้แล้ว งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 เหมาะกับการตัดสินใจซื้อรถเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านมีทุกโอกาสดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องตระเวนหาโชว์รูมหลายๆ แห่ง เพื่อการเปรียบเทียบ  โอกาสมาถึงแล้ว รออะไรอยู่ครับ 

www.motorexpo.co.th
Facebook : MotorExpo
Instagram : MotorExpoTH
Twitter : MotorExpoTH

YouTube : IMCOnlineTH
Line ID : @motorexpo 

pinterest.com/MotorExpoTH