ฝนตก คนมีรถและไม่มีรถขับก็ลำบากไม่แพ้กัน  เพราะเดี๋ยวนี้ฝนตกไม่นานน้ำก็จะท่วม ไม่เว้นแม้บนทางด่วน สำหรับคนขับรถมาดูสิ่งที่ต้องเตรียมรับมือ "ลุยฝน" หากอุปกรณ์ใดไม่พร้อมใช้งาน เกิดเกเร ขณะฝนตกหนัก คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ เบื้องต้นมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

- อย่าลืมตรวจเชคไฟส่องสว่าง  ทุกดวงต้องพร้อมใช้งาน เพราะสัญญาณไฟสำคัญมากในหน้าฝน โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกหนักจนมองอะไรไม่ค่อยเห็น ไฟส่องสว่างนี้ นอกจากจะเป็นจุดสังเกตให้รถคันอื่นเห็นเราแล้ว ยังเป็นไฟสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนทิศทางที่เราต้องการไป ดังนั้นเราควรตรวจสอบไฟให้พร้อม ตั้งแต่ ไฟหรี่, ไฟหน้าทั้งสูง-ต่ำ, ไฟเลี้ยว, ไฟท้าย, ไฟถอยหลัง, ไฟส่องป้ายทะเบียน และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) เพรา่ะฝนตกหนักทัศนวิสัยไม่ดีอยู่แล้ว หากไฟส่องสว่างดวงใดดวงหนึ่งขาด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ คลิค ! ดูวิธ๊ใช้งาน "ไฟฉุกเฉิน" "ไฟตัดหมอก"

- ใบปัดน้ำฝน หากเริ่มทำงานไม่ดี ปัดน้ำฝนไปไม่เกลี้ยง หรือมีเสียงเสียดสีกับกระจก ต้องรีบเปลี่ยนทันที ชมคลิพ ! วิธีเปลียนใบปัดน้ำฝน> 

- ยางรถ สภาพต้องพร้อมใช้งา่น และอย่าลืมหมั่นตรวจเชคลมยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน 

-ระบบเบรค ไม่ว่าฤดูใดก็ต้องหมั่นตรวจเชค หากเกิดอาการเบรคแล้วสั่นสู้เท้า หรือต้องใช้ระยะในการเบรคมากกว่าปกติ ควรรีบทำการเปลี่ยน

- ห้องเครื่อง เปิดเชคดูบ้าง น้ำในหม้อน้ำ, น้ำฉีดกระจก, แบทเตอรี ฯลฯ ใครไม่มีควา่มรู้เชิงช่าง ก็นำรถเข้าศูนย์บริการตรวจเชคให้ก็ได้ 

- ร่ม หรือเสื้อกันฝน ก็ควรมีติดรถ เช่นกัน

นี่คือเบื้องต้นที่เราควรต้องเชค และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่อยากจะเตือนในการขับรถหน้าฝน นั่นก็คือให้ ระวังอาการ "เหินน้ำ"

- อาการ "เหินน้ำ" หรือ Hydroplane คืออะไร ? คือ การที่มีน้ำมาคั่นกลางระหว่างพื้นผิวสัมผัสของยางกับถนน เพราะร่องยางรีดน้ำไม่ทัน ซึ่งอาจตื้นเกินไป ปริมาณน้ำมากไป หรือขับเร็วเกินไป จนไถลหรือวิ่งบนผิวน้ำ ผู้ขับที่ช่างสังเกตจะรู้สึกได้จากพวงมาลัยที่ส่งถึงมือ ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้ รถหลายคันแฉลบ เนื่องจากผู้ขับไม่ระวัง จนไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย คลิค ! ดูวิธีป้องการ อาการเหินน้ำ

ข้อมูลเกี่ยวข้อง: Click> รู้ไว้ ! ป้องกันอู่โขกราคา ค่าแรง เผื่อจำเป็นต้องน้ำรถเข้าซ่อมหลังลุยน้ำท่วม