Sep 13 , 2017 อ่านแล้ว 20,719 ครั้ง ทริค ! ขับรถสู้ฝน [ตกหนัก] การขับรถหน้าฝน หรือขณะฝนตกหนักๆ ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟหน้าแบบต่ำ แทนการเปิดไฟหรี่ เพราะการเปิดไฟต่ำ ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไรเลย ไดชาร์จ แทบไม่ได้ทำงานหนักขึ้น และก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้หลอดไฟหน้าอายุสั้นลง เพราะหลอดไฟหน้าราคาถูกมากเมื่อเทียบกับความปลอดภัย ห้ามเปิดไฟสูง บางคนเห็นว่าฝนตกหนักมาก กลัวว่าเปิดไฟต่ำแล้วรถคันอื่นจะมองไม่เห็นรถตนเองจึงเปิดไฟสูง แต่ท่านหารู้ไม่ "ไฟสูง" จากรถของท่าน ลำแสงจะไปทิ่มตารถคันที่สวนมาจนตาพร่า ลำพังฝนตกหนักก็มองไม่ค่อยจะชัดอยู่แล้ว ฉะนั้นเปิดแค่ไฟต่ำก็เพียงพอ ไฟฉุกเฉินก็ห้าม และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉิน หรือไฟกะพริบ ในขณะที่รถวิ่งอย่างเด็ดขาด นอกจากจะทำให้ผู้อื่นตาลายแล้ว ยังทำให้ผู้ที่ขับตามมายากที่จะแยกแยะว่ารถคันหน้ากำลังจอดอยู่หรือกำลังวิ่ง ไฟชนิดนี้จะเปิดในกรณีที่ต้อง “จอดฉุกเฉิน” เท่านั้น หากประเมินแล้วว่ายังมองเห็น สามารถขับต่อไปได้ ให้ขับไปเรื่อยๆ อย่างระมัดระวัง ถ้าไม่ไหวให้หาจังหวะรีบหาที่จอดที่ปลอดภัยให้มากที่สุด ก่อนจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ต้องไม่ลืมเปิดไฟเลี้ยวเตือนผู้อื่นล่วงหน้าทุกครั้ง และควรจับพวงมาลัย 2 มือในตำแหน่ง มือซ้ายอยู่ที่เลข 9 และมือขวาอยู่ที่เลข 3 และพร้อมจะลดความเร็วลงได้ทันที เมื่อรถเกิดอาการเหินน้ำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาขณะขับรถ ควรทิ้งระยะคันหน้า ผู้ใช้รถทุกชนิดขณะฝนตกหนัก ควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งการบังคับรถ และการเบรคซึ่งจะใช้ระยะทางในการหยุดรถที่มากกว่าบนพื้นผิวที่แห้ง รวมทั้งการเสียหลักลื่นไถล ควรทิ้งช่วงห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากกว่าปกติ เพื่อให้มีระยะในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ฉะนั้นจึงควรลดความเร็วลง ระมัดระวัง และมีสติในการขับ อย่าลืมตรวจเชคไฟส่องสว่าง เพราะสัญญาณไฟสำคัญมากในหน้าฝน โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกหนักจนมองอะไรไม่ค่อยเห็น ไฟส่องสว่างนี้ นอกจากจะเป็นจุดสังเกตให้รถคันอื่นเห็นเราแล้ว ยังเป็นไฟสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนทิศทางที่เราต้องการไป ดังนั้นเราควรตรวจสอบไฟให้พร้อม ตั้งแต่ ไฟหรี่, ไฟหน้าทั้งสูง-ต่ำ, ไฟเลี้ยว, ไฟท้าย, ไฟถอยหลัง, ไฟส่องป้ายทะเบียน และไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ภาพที่เกี่ยวข้อง ............. คำค้นหา ............. ฝนตก ขับรถฝนตก ฝนตกรถติด อุบัติเหตุ บทความที่เกี่ยวข้อง .............