Tesla เปิดตัวนวัตกรรมหุ่นยนต์

Tesla ผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ได้ร่วมจัดแสดงยานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืนครั้งแรก ในงาน Motor Expo 2023 เปิดตัวหุ่นยนต์ Tesla ที่รู้จักกันในชื่อ Optimus ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดภายในงานนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย Optimus ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานที่น่าเบื่อ และจำเจ หรืองานที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สร้างขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูง แบบเดียวกับยานพาหนะของ Tesla เพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นอกจากการเปิดตัว Optimus แล้ว ที่บูธของ Tesla ยังมีการจัดแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์เกี่ยวกับอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน โดยมีการจัดแสดงรถ Tesla Model 3 และ Model Y พร้อมด้วยระบบแบทเตอรีเก็บกักพลังงานอย่าง Powerwall และโซลูชันด้านการชาร์จที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น เครือข่าย Superchargers และ Home Chargers อีกด้วย งานแสดงนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2566 ผู้เข้าชมงานสามารถเข้าชมเทคโนโลยี AI ล่าสุด และระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของ Tesla ได้ที่บูธ D04 ณ IMPACT ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี

ความพิเศษของรถ Model Y ในงาน Motor Expo 2023

Tesla Model Y รถที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรถเอสยูวีมาตรฐานระดับโลก ณ ตอนนี้ราคาในสตอคของ Model Y ยังคงเป็นราคาพิเศษก่อนปรับราคา และมีจำนวนจำกัด ในทั้ง 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,699,000 บาท สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังแบบ Real-Wheel Drive ซึ่งจะต้องจอง และดำเนินการรับรถให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 รถ Tesla Model Y มาพร้อมพื้นที่ความจุสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 2,158 ลิตร และมีระยะทาง (มาตรฐาน WLTP) 514 กม. เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ หัวใจหลักอีกอย่างหนึ่งของ Model Y คือ การอัพเดทซอฟท์แวร์ผ่านอากาศ (OTA) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ของตัวรถ โดยเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพด้านระบบความบันเทิง ความสามารถของตัวรถ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ Tesla ยังมีโปรแกรมพิเศษทางด้านการเงินสำหรับ Model Y อย่าง Charged Up Financial Program ที่มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.89 % โปรแกรมอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้ต้องสั่งจองตั้งแต่วันนี้-11 ธันวาคม 2566

Tesla Model 3 รุ่นอัพเกรดใหม่

Tesla Model 3 รุ่นอัพเกรดใหม่ที่ประกอบไปด้วยห้องโดยสารแบบ Wraparound พร้อมไฟส่องสว่างโดยรอบที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดื่มด่ำ ระบบเครื่องเสียงได้รับการอัพเกรดเป็นระดับโรงภาพยนตร์ด้วยลำโพงสูงสุด 17 ตัว ระบบจอควบคุมทางด้านหลังแบบหน้าจอคู่ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งนี้ Tesla Model 3 รุ่นอัพเกรดใหม่มีให้เลือกอยู่ 2 รุ่นย่อย ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Long Range AWD และรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังแบบ Real-Wheel Drive โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท พร้อมการส่งมอบเริ่มในไตรมาสที่ 1 ปี 2567

ระบบชาร์จ Ecosystem

สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่มีรถ Tesla ไว้ในการครอบครองแล้ว Tesla ได้จัดแพคเกจสำหรับแท่นชาร์จติดผนัง ในราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท โดยประกอบไปด้วย ตัวเเท่นชาร์จติดผนัง และเครื่องชาร์จแบบพกพา พร้อมการบริการตรวจสอบสถานที่ และติดตั้งแบบครบวงจร โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจาก Tesla และยังได้รับการรับประกันนานถึง 4 ปี เพื่อความมั่นใจให้แก่ลูกค้าทุกคน

บริการหลังการขาย และเครือข่าย Supercharger

เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของลูกค้า Tesla ทุกคน Tesla มุ่งมั่นในการปรับปรุงเครือข่ายการบริการหลังการขาย ด้วยการเปิดศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถัง เพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ภายในสิ้นปี 2566 นี้ นอกจากนี้ Tesla ได้ขยายระบบเครือข่าย Supercharger เพิ่มเติมอีก 2 แห่งในภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงในจังหวัดเชียงใหม่ ภายในสิ้นปีนี้ และยังคงมีการขยายอย่างต่อเนื่องต่อไปในปี 2567 ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงภาคใต้