ให้ถึงอุณหภูมิใช้งานนั้น นับว่าเป็นเรื่องดีมาก เพราะสามารถช่วยให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลดการสึกหรอขณะเครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำได้มาก เนื่องจากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์นั้น ทำมาจากโลหะหลายๆ ชิ้น โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว จำเป็นที่จะต้องได้รับความร้อนระดับที่เหมาะสม
จะได้ไม่เกิดอันตรายจากการออกกำลังกาย เช่น จุกเสียด, กล้ามเนื้ออักเสบ หรือฉีกขาด รวมถึงอาการหายใจ หรือการทำงานของหัวใจผิดปกติ แทนที่เราจะวอร์มอัพอยู่กับที่ เราก็เปลี่ยนมาใช้การเดินช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นไปจนถึงระดับการวิ่งปกติก็ได้ เช่นเดียวกับรถยนต์ เราต้องเลิกการวอร์มเครื่องอยู่กับที่ได้แล้ว นอกจากจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมลพิษในอากาศด้วย
การกระทำที่เหมาะสมในปัจจุบัน คือ เมื่อเครื่องยนต์ติดและไฟเตือนต่างๆ ดับลง ให้ออกรถได้เลย แต่ต้องแล่นด้วยความเร็วช้าๆ สักครู่หนึ่ง จนกระทั่งเห็นเข็มแสดงความร้อนของเครื่องยนต์สูงขึ้นสักครึ่งหนึ่งของระดับความร้อนปกติ ก็สามารถเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นได้เรื่อยๆ การทำเช่นนี้เหมือนกับการวอร์มอัพด้วยการเคลื่อนที่ช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วมากขึ้นจนถึงระดับปกติ จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากการออกกำลังกาย เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ การวอร์มอัพลักษณะนี้เพียงพอที่จะยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ได้แล้ว สิ่งสำคัญคือ ช่วยลดความสิ้นเปลืองและมลพิษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทั่งเห็นเข็มแสดงความร้อนของเครื่องยนต์สูงขึ้นสักครึ่งหนึ่งของระดับความร้อนปกติ ก็สามารถเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นได้เรื่อยๆ
การทำเช่นนี้... เหมือนกับการวอร์มอัพร่างกายคนเรา ด้วยการเคลื่อนที่ช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วมากๆ ขึ้นจนถึงระดับปกติ จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายจากการออกกำลังกาย เช่นเดียวกับ เครื่องยนต์ ...
เพราะ... การวอร์มอัพลักษณะนี้เพียงพอที่จะยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องยนต์ได้แล้ว • สิ่งสำคัญ คือ... ช่วยลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและมลพิษ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมดสมัยวอร์มเครื่องยนต์อยู่กับที่ได้แล้ว นอกจากจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด คือทำให้เกิดมลพิษจากควันรถของท่านอีกด้วย
ที่มาภาพ โครงการ "ขับเป็น...ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล"
Follow Motor Expo Club Network