เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2558 รายการโลกรถยนต์ และทีมงาน MOTOR EXPO ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวิไล ตันตินันท์ธนา ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ซึ่งอาจส่งผลให้รถยนต์บางประเภทมีราคาจำหน่ายสูงขึ้น และ Eco Sticker ที่บังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 เรารวบรวมคำถามที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ ในปีนี้ และปีหน้า
ภาษีสรรพสามิต เป็นภาษีที่จัดเก็บกับสินค้าหลัก 3 กลุ่ม ประกอบด้วย สินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าที่ทำให้เสียสุขภาพ และสินค้าที่สร้างมลภาวะ โดยจะจัดเก็บจากผู้ประกอบการ แต่สุดท้ายจะถูกรวมอยู่ในราคาขายปลีกของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเป็นผู้จ่ายภาษีส่วนนี้ในทางอ้อม
เพราะเราต้องการส่งเสริมให้ประหยัดพลังงาน และลดมลพิษในอากาศ การเก็บภาษีตามความจุกระบอกสูบจึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ประกอบกับเทคโนโลยีในรถยนต์ปัจจุบัน สามารถทำให้เครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุ (ซีซี) สูงมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และมลพิษต่ำได้
ลดลงแน่นอน ยกตัวอย่างกลุ่มรถยนต์เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี หรือ ซับคอมแพกต์ จากข้อมูลปี 2555 พบว่า มีทั้งหมด 156,000 คัน แต่ละคันปล่อยไอเสียเฉลี่ย 157 กรัมต่อกิโลเมตร การบังคับใช้ภาษีใหม่ จะทำให้ผู้ผลิต ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนารถของตัวเอง ให้ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 150 กรัมต่อกิโลเมตร ถ้าเป็นแบบนี้ จะมีไอเสียจากรถยนต์ในกลุ่มนี้น้อยลงถึง 40,000 ตันต่อปี เสมือนกับปลูกป่าเพิ่มอีก 44,000 ไร่เลยทีเดียว
การจัดเก็บภาษีสรรพสามิต จะเก็บในวันที่รถยนต์คันนั้นๆ ออกจากโรงงาน โดยรถยนต์ที่ออกจากโรงงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 จะถูกคิดภาษีอัตราใหม่ แต่ถ้าออกจากโรงงานก่อนหน้านั้น จะถูกคิดภาษีอัตราเดิม ดังนั้น ผู้ที่รับรถในปี 2559 จะได้รถที่ใช้ภาษีเดิมในกรณีที่เป็นรถที่ออกจากโรงงานภายในปี 2558 หรือรถค้างสตอคเท่านั้น ทั้งนี้ เรื่องการจอง และส่งมอบรถ ไม่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต และอัตราภาษีใหม่แต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของบริษัทรถยนต์ทั้งหมด
ประกอบด้วย รถยนต์นั่งทุกชนิด รถกระบะ รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) และรถตู้ส่วนบุคคลไม่เกิน 11 ที่นั่ง ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ จะเป็นภาษีคนละอัตรากัน และยังคงคิดตามความจุกระบอกสูบเหมือนเดิม
ภาษีสรรพสามิต เป็นภาษีที่ถูกเก็บตอนที่รถออกจากโรงงานเพียงครั้งเดียว ดังนั้น รถยนต์ที่ซื้อไปแล้ว รวมทั้งรถยนต์ที่ถูกปรับแต่งเครื่องยนต์จนค่าไอเสียเกินพิกัดภาษี จะไม่เข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ซ้ำ หรือถูกบวกภาษีเพิ่มแต่อย่างใด
สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม จะเป็นผู้ทดสอบค่าการปล่อยไอเสียของรถยนต์ทุกรุ่นที่ขายในประเทศไทย ด้วยมาตรฐาน UNR 101 และทดสอบมาตรฐานมลพิษระดับสากล (Euro 4, Euro 5, Euro 6) ด้วยมาตรฐาน UN R83 ทดสอบในห้องปฏิบัติการที่จำลองสภาพการขับขี่จริง ทั้งสภาวะในเมือง สภาวะนอกเมือง และสภาวะรวม
กระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศให้รถยนต์ทุกคันที่ออกจากโรงงานหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ติด Eco Sticker ซึ่งเป็นป้ายแสดงข้อมูลรถยนต์ ประกอบด้วย อัตราการปล่อย CO2 อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มาตรฐานไอเสีย มาตรฐานความปลอดภัย ข้อมูลจำเพาะ ฯลฯ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สัมพันธ์กับการคิดภาษีสรรพสามิต และยังช่วยให้ผู้บริโภคศึกษาข้อมุลเกี่ยวกับรถได้ง่ายอีกด้วย
“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32” เป็นงานแสดงรถยนต์ปิดท้ายปลายปี ที่ผู้บริโภคจะสามารถซื้อรถในราคาโครงสร้างภาษีเก่า อย่างไรก็ตาม แม้จะจองรถภายในปีนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รถที่เสียภาษีอัตราเดิมเสมอไป ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องสอบถามกำหนดการรับรถ และตกลงเงื่อนไขเรื่องราคาให้ชัดเจน
Follow Motor Expo Club Network