Nov 30 , 2018 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เผยโฉม “สตรีท ทวิน” “สตรีท สแกรมบเลอร์” โฉมใหม่ปี 2019 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ เปิดไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์ ทไรอัมฟ์ ส่งท้ายปีเอาใจสาวกโมเดิร์นคลาสสิคต่อเนื่องด้วย 2 สมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูล บอนเนวิลล์ ได้แก่ “สตรีท ทวิน” (New Street Twin 2019) โฉมใหม่ปี 2019 ราคา 407,000 บาท และ “สตรีท สแกรมบเลอร์” (New Street Scrambler 2019) โฉมใหม่ปี 2019 ราคา 489,000 บาท ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์ อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำและรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัว พร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของครั้งแรกก่อนใครในเอเชียแปซิฟิคภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” หรือ Motor Expo 2018 ณ บูธ ทไรอัมฟ์ G07 ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2561 จักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 หรือ Motor Expo 2018 ในครั้งนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ ได้จัดเซอร์พไรส์ใหญ่เอาใจสาวกโมเดิร์นคลาสสิคต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว 2 สมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูล บอนเนวิลล์ ได้แก่ “สตรีท ทวิน” (New Street Twin 2019) และ “สตรีท สแกรมบเลอร์” (New Street Scrambler 2019) โฉมใหม่ล่าสุดปี 2019 ที่ได้รับการพัฒนาในเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะเฉพาะมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีชั้นนำ และรายละเอียดการตกแต่งตัวรถที่มีสไตล์สวยงามเฉพาะตัวมาให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด รวมถึงจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค จักรพงษ์ กล่าวต่อว่า เริ่มต้นที่ไฮไลท์แรกสำหรับรถ “สตรีท ทวิน” โฉมใหม่ (The New Street Twin 2019) รถมอเตอร์ไซค์ที่สืบทอดความเป็นต้นแบบแท้จริง โดยเป็นรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิคที่จะพาไปสู่ความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่ที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยพละกำลังและประสิทธิภาพของรถที่เพิ่มมากขึ้นอย่างโดดเด่นเห็นได้ชัด มาพร้อมเครื่องยนต์ บอนเนวิลล์ แรงบิดสูง ขนาด 900 ซีซี ที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนา ส่งต่อกำลังสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 10 แรงม้า โดยให้พละกำลังสูงสุดถึง 65 แรงม้า ที่ 7,500 รตน. พร้อมมอบแรงบิดสูงสุดระดับมหาศาลถึง 80 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รตน ผสานกับระบบเก็บเสียงท่อคู่ (Twin Upswept) ที่มอบเสียงของเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริงเข้ากับภาพลักษณ์ของการขับขี่ สตรีท ทวิน ที่สามารถได้ยินและสัมผัสได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านคุณลักษณะเฉพาะตัวยังพัฒนาเพิ่มมากขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและการควบคุมการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเบรคหน้าใหม่จาก Brembo แบบ 4 สูบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคให้ดียิ่งขึ้น ชอคอับหน้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายมากกว่าเดิม รวมถึงปรับเปลี่ยนท่วงท่าของผู้ขับขี่ให้ขับขี่สบายขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์ของผู้ขับขี่ รวมทั้งเพิ่มความสบายของเบาะนั่งทั้งผู้ขับขี่และคนซ้อน เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขี่ที่สุดแสนเร้าใจ และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย นอกจากนี้ ด้านเทคโนโลยีชั้นนำอันดับหนึ่งจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรค ABS อันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire) ตอบสนองการขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น ระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ (Traction Control) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการควบคุมรถของผู้ขับขี่ คลัทช์แบบผ่อนแรง (Torque Assist Clutch) เพิ่มระยะทางการขับขี่และเพื่อให้ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ช่วยทำให้สามารถขับขี่ทางไกลได้นานขึ้น พร้อมโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่ ถนน (Road) และฝนตก (Rain) สำหรับประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะ ไฟท้าย LED ใหม่ที่ติดตั้งลงในชุดไฟท้ายแบบเปลือยที่ดูดีมีสไตล์ ช่วยให้ไฟท้ายมีรูปแบบที่เฉพาะตัวและประหยัดพลังงาน กุญแจพร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobiliser) ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด และช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ใต้เบาะที่นั่ง ตลอดจนอุปกรณ์ตกแต่งเสริมใหม่ เช่น ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS – Tyre Pressure Monitoring System) เพื่อประสบการณ์และความมั่นใจในการขับขี่จริงที่ดีกว่าเดิม เป็นต้น ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์มาพร้อมสไตล์เฉพาะตัวร่วมสมัยที่มากกว่าเดิม อาทิ ล้อซี่หล่อขึ้นรูปอลูมิเนียมลายใหม่ลงรายละเอียด พร้อมการตกแต่งคุณภาพสูงที่ช่วยเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงโลโกของ สตรีท ทวิน แบบใหม่บนแผงด้านข้าง ช่วยเสริมมุมมองที่ดูร่วมสมัยมากขึ้น รวมถึงการอัพเกรดการตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมมากกว่า 140 รายการ ให้สามารถสร้างรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้ง่ายกว่าที่เคย รวมถึงมีชุดตกแต่งรถสร้างแรงบันดาลใจ 2 ชุด สำหรับใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ขับขี่ที่อยากจะออกแบบ สตรีท ทวิน ในรูปแบบของตัวเอง หรืออยากจะตกแต่งแบบเต็มรูปแบบ ได้แก่ ชุด Urban Ride สไตล์ Stripped back และชุด Cafe Custom สไตล์เมืองแบบร่วมสมัยอีกด้วย ทั้งนี้ สตรีท ทวิน โฉมใหม่ (The New Street Twin 2019) มาพร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ Matt Ironstone, Korosi Red และ Jet Black ราคา 407,000 บาท พร้อมเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์ของงาน คือ “สตรีท สแกรมบเลอร์” โฉมใหม่ (The New Street Scrambler 2019) รถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมอิสระและความสนุกสนานไร้ขีดจำกัด ซึ่งได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นทั้งด้านพละกำลัง และประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นอย่างโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด จนก้าวขึ้นเป็นรถระดับชั้นนำอย่างแท้จริง โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ บอนเนวิลล์ แรงบิดสูง 900 ซีซี ส่งต่อกำลังสูงสุดที่มากกว่าเดิมถึง 10 แรงม้า สูงสุด 65 แรงม้า ที่ 7,500 รตน. พร้อมแรงบิดสูงสุด 80 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รตน. รวมถึงการปรับปรุง ฝาครอบลูกเบี้ยวใหม่ทำจากแมกนีเซียม เพลาข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบา เพลาตาย และเพลาถ่วงดุล ฝาครอบคลัทช์ใหม่ และคลัทช์ใหม่น้ำหนักเบา ตลอดจนระบบท่อไอเสียคุณภาพสูง ที่ช่วยส่งมอบเสียงของเครื่องยนต์ สแกรมบเลอร์ อย่างแท้จริง เข้ากับภาพลักษณ์ของการขับขี่ที่เคยได้ยินและสัมผัส ผสานความคล่องแคล่วว่องไว ส่งมอบความตื่นเต้นเร้าใจได้เป็นอย่างดี ด้านคุณลักษณะ “สตรีท สแกรมบเลอร์” โฉมใหม่ มาพร้อมคุณลักษณะเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น โดยได้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งต่อการควบคุมที่แม่นยำพร้อมมอบความรู้สึกปราดเปรียว ด้วยโครงสร้างรถและระบบกันการสั่นสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาผสมผสานกับไดนามิคการขับขี่และสไตล์ อาทิ เบรคหน้า Brembo 4 สูบใหม่พร้อมคาลิเพอร์ ชอคอับหน้าใหม่ที่มีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนโครงรถแบบใหม่ที่เป็นคุณลักษณะเฉพาะของ สแกรมบเลอร์ ที่มีแฮนด์บังคับกว้างกว่าเดิม ที่พักเท้าโน้มไปด้านหน้าและล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ที่มาพร้อมยางรถที่สามารถให้การยึดเกาะเป็นอย่างดีบนพื้นถนนทางเรียบ และบนพื้นผิวแบบ Light off-road ตลอดจนตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำลง ทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ขับขี่ที่มีส่วนสูงทุกระดับ ส่วนด้านเทคโนโลยีใหม่ชั้นนำอันดับหนึ่ง อัดแน่น ประกอบด้วย โหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ถนน (Road) ฝนตก (Rain) และออฟโรด (Off-Road) ใหม่ โดยโหมด Road และ Rain จะช่วยปรับแผนที่และการตั้งค่าการควบคุมการยึดเกาะถนน ส่วนโหมด Off-Road ใหม่นี้จะเป็นการปิดระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) โดยสมบูรณ์ ซึ่งสามารถเปิดการใช้งานทั้ง 2 โหมดได้อีกในขณะขับขี่ โดยกดปุ่มโหมดค้างไว้ 1 วินาที ส่วนระบบเบรค ABS ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัย และการควบคุมรถให้กับผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น เป็นลักษณะเด่นของ สตรีท สแกรมบเลอร์ โฉมใหม่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถตามเป้าหมายการใช้งานทั้ง 2 แบบที่แท้จริง ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire) ตอบสนองการขับขี่ที่แม่นยำมากขึ้น ระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการควบคุมรถของผู้ขับขี่ คลัทช์แบบผ่อนแรง (Torque Assist Clutch) เพิ่มระยะทางการขับขี่และเพื่อให้ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ อันจะช่วยทำให้สามารถขับขี่ทางไกลได้นานขึ้น ไฟท้าย LED ส่องสว่างโดดเด่น กุญแจพร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม (Immobiliser) ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด และช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ใต้เบาะที่นั่ง เป็นต้น ในขณะที่ด้านรูปลักษณ์ใช้งานได้มากขึ้นและสวยงามมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น โลโกแบบร่วมสมัยใหม่ การตกแต่งสไตล์พรีเมียมใหม่ ชุดเบาะนั่งแบบแอดเวนเจอร์ใหม่ และชอคอับคู่หน้าที่กว้างขึ้นเพื่อการขับขี่สไตล์ สแกรมบเลอร์ ที่มากกว่าเดิมและการทรงตัวที่ดีขึ้น รวมถึงโดดเด่นด้วยสไตล์ stripped back ทั้งนี้ “สตรีท สแกรมบเลอร์” โฉมใหม่ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างโอกาสที่สมบูรณ์แบบให้แก่นักบิดทุกคนได้ปรับแต่งรถในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยอุปกรณ์เสริมให้เลือกสรรกว่า 120 รายการ จึงทำให้สามารถวิ่งบนเส้นทางออฟโรดได้รวมทั้งมีสไตล์ของตัวเองเหมาะกับการใช้งานในทุกวัน ตลอดจนการรังสรรค์ชุดแต่งรถสร้างแรงบันดาลใจสุดเร้าใจขึ้นมาเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้ขับขี่ที่อยากจะออกแบบ สตรีท สแกรมบเลอร์ ในรูปแบบของตัวเอง หรืออยากจะตกแต่งแบบเต็มรูปแบบ ได้แก่ ชุด Urban Tracker สไตล์ Stripped-back ตกแต่งด้วยตัวเองสุดคูล โดย “สตรีท สแกรมบเลอร์” โฉมใหม่ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Fusion white, Cranberry Red และ Khaki Green/Matt Aluminum พร้อมเส้นขอบซึ่งวาดด้วยมือ สี Jet black ราคา 489,000 บาท โดยพร้อมเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ขณะที่ภายในงานยังเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิคสายลุยตัวจริงที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุดอย่าง “สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์ซี” (Scrambler 1200 XC) และ “สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์อี’’ (Scrambler 1200 XE) รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคสายลุยที่มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนาด 1,200 ซีซี และเกณฑ์มาตรฐานใหม่ทั้งหมด นำเสนอความสามารถแบบ Dual Purpose และสไตล์การตกแต่งแบบโมเดิร์น พร้อมด้วยคุณลักษณะเฉพาะและเทคโนโลยีชั้นนำ รวมถึงรูปลักษณ์ซึ่งหลอมรวมเข้ากับ DNA ของ สแกรมบเลอร์ ของ ทไรอัมฟ์ ที่โดดเด่น ตลอดจนความสามารถของรถสไตล์แอดเวนเจอร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญเป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกของโลกที่ติดตั้งระบบควบคุมกล้อง GoPro และระบบนำทางแบบ Turn-by–turn ถือเป็นครั้งแรกของรถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นคลาสสิคยุคใหม่ที่ก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดย “สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์ซี” (Scrambler 1200 XC) มาพร้อมกับ 2 สี ได้แก่ สี Jet Black/Matt Black และสี Khaki Green/Brooklands Green สนนราคาจำหน่ายประมาณการ 613,000 บาท ส่วน “สแกรมบเลอร์ 1200 เอกซ์อี’’ (Scrambler 1200 XE) มีให้เลือก 2 สีสุดพรีเมียมเช่นกัน ได้แก่ Fusion White/Brooklands Green และสี Cobalt Blue/Jet Black สนนราคาจำหน่ายประมาณการ 656,000 บาท อย่างไรก็ตาม นอกจากกรถมอเตอร์ไซค์ไฮไลท์ข้างต้นแล้ว บูธ ทไรอัมฟ์ ภายในงาน Motor Expo 2018 ยังขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ ทไรอัมฟ์ ครบทุกเซกเมนท์ทุกรุ่นมาโชว์และให้สัมผัสอย่างใกล้ชิด รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ ทไรอัมฟ์ รุ่น สปีดมาสเตอร์ (Speedmaster) ที่ถูกคัสตอมด้วยชุดแต่ง Maverick แบบจัดเต็มครบชุดมาโชว์เป็นครั้งแรกพร้อมกันนี้ยังมีโซนเสื้อผ้าคอลเลคชันใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษสูงสุด 30 % ตลอดจนพโรโมชันอีกมากมาย พิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ ทไรอัมฟ์ ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้น จะได้รับ “Triumph Exclusive Surprise”ลุ้นรับของขวัญเซอร์พไรส์สุดพิเศษจาก ทไรอัมฟ์ อีกด้วย โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธ ทไรอัมฟ์ G07 ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2561 สอบถามข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เวบไซท์ www.triumphmotorcycles.co.th ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand ภาพที่เกี่ยวข้อง ............. คำค้นหา ............. MOTOR EXPO TRIUMPH