Mar 23 , 2017 "ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง" เมื่อรถคิดแทนคนขับ !?! หลายปีก่อนเราเคยฝัน อยากให้รถยนต์ทำโน่น ทำนี่ได้ ลองมาดู "Ford" ฐานะผู้นำทางเทคโนโลยี ให้รถคิดแทนคุณ ทำได้อย่างไร แล้วดีกว่าอย่างไร อะไรคือเทคโนโลยีที่ฉลาดที่สุดที่คุณมี? ซึ่งก็อาจเป็นรถที่คุณขับอยู่ทุกวันนี้ ที่กำลังจะก้าวล้ำไปอีกขั้น ซึ่งก็สอดคล้องกับ แนวคิดของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34″ หรือ Motor Expo 2017 ที่ว่า "ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ชมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พวกเขาเคยฝันไว้ และเพื่อยืนยันว่า ทุกความฝันเป็นจริงได้ในโลกยานยนต์ ลองมาดูเทคโนโลยีของฟอร์ด ให้รถทำอะไรๆ แทนเราได้อย่างไรบ้าง ...ฟอร์ดเดินหน้าเต็มกำลังสู่เป้าหมายการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายในปี พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ร่วมกันและบริการรถเรียกสาธารณะ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี กว่าโลกจะเข้าสู่ยุครถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มตัว แต่รถยนต์ที่เราขับทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ และมีเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ในตัว เทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจจับสมรรถนะการขับรถที่ไม่สมบูรณ์ ก่อนที่ผู้ขับขี่จะรู้ตัวว่าต้องการตัวช่วยเสียอีก แน่นอนว่าเทคโนโลยีช่วยขับขี่ในปัจจุบันเหล่านี้ฉลาดพอที่จะคิดแทนและตัดสินทักษะการขับรถของผู้ขับขี่ได้ นี่คือเทคโนโลยี 6 อย่างที่คุณควรมีไว้ในครอบครอง เพื่อช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนของคุณปลอดภัยขึ้นและตึงเครียดน้อยลง รายละเอียดต่างๆ มีความแตกต่างกัน ดังนั้น คุณควรศึกษารายละเอียดดังกล่าวจากคู่มือรถให้ดี ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) สถานการณ์: คุณหัก พวงมาลัยอย่างรวดเร็ว ทำให้รถสูญเสียการทรงตัว คำตัดสิน: ผู้ขับต้องการความช่วยเหลือเพื่อที่จะทำให้รถกลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง การดำเนินการ: ทำงานอัตโนมัติโดยการเพิ่มแรงเบรกและปรับแรงบิดเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้คุณควบคุมรถได้อีกครั้ง วิธีการทำงาน: รถรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มาพร้อมกับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) อยู่แล้ว ซึ่งสามารถช่วยให้คุณรักษาการทรงตัวในสถานการณ์การขับรถที่อันตรายหรือเมื่อคุณหักหลบกระทันหัน เมื่อระบบตรวจพบว่ารถของคุณกำลังสูญเสียการทรงตัว มันจะทำการเพิ่มแรงเบรกที่ล้อแต่ละล้อให้โดยอัตโนมัติ และปรับแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพการทรงตัวของรถและช่วยลดการลื่นไถลออกด้านข้าง หากไฟ ESP บนแผงหน้าปัดสว่างขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าระบบ ESP ทำงานแล้ว การหลีกเลี่ยงการลื่นไถลออกด้านข้างเป็นสิ่งสำคัญมากเนื่องจากเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอุบัติเหตุต่างๆ ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System) สถานการณ์: รถเบี่ยงออกนอกเลน ส่ายไปมา คำตัดสิน: ผู้ขับอาจไม่มีสมาธิหรือหลับใน การดำเนินการ: แจ้งเตือนเมื่อความระมัดระวังในการขับขี่ลดลง วิธีการทำงาน: ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ตรวจวัดระดับความระมัดระวังในการขับรถ โดยการวัดตำแหน่งของรถภายในเลนและระดับการส่ายของรถ หากผู้ขับมีระดับความระมัดระวังต่ำกว่าที่กำหนดซึ่งอาจมีสาเหตุจากความเหนื่อยล้าหรือขาดสมาธิ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ “พัก” (Rest Now) ควบคู่ไปกับเสียงแจ้งเตือน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) สถานการณ์: รถกำลังเบนออกจากเลนโดยไม่ตั้งใจ คำตัดสิน: ผู้ขับกำลังเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ การดำเนินการ: แจ้งเตือนเมื่อรถคุณกำลังเบนออกจากเลน และนำคุณกลับมาสู่เลนปัจจุบัน หากไม่มีการตอบสนอง วิธีการทำงาน: เมื่อรถคุณกำลังเบนออกจากเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะพิจารณาว่าเป็นการออกจากเลนโดยที่ไม่ตั้งใจและระบบจะดำเนินการเข้าควบคุมแรงบิดของพวงมาลัยเพื่อดึงรถกลับเข้าสู่เลนเดิม หากรถยังคงเบี่ยงออกจากเลนโดยคุณไม่ตอบสนอง ขั้นต่อไป ระบบจะช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยการสั่นที่พวงมาลัย ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) สถานการณ์: คุณกำลังอยู่บนถนนที่การจราจรเคลื่อนตัวเร็ว มีแนวโน้มว่ารถของคุณจะชนปะทะกับรถคันหน้า และคุณก็ไม่ได้เตรียมรับมือที่จะป้องกัน คำตัดสิน: ผู้ขับต้องการตัวช่วยเพื่อให้หยุดรถได้ทันเวลา เพื่อป้องกันโอกาสการชน การดำเนินการ: แจ้งเตือนให้คุณหยุดรถได้อย่างรวดเร็วขึ้น วิธีการทำงาน: หากความเร็วและระยะห่างของรถกับวัตถุที่เคลื่อนที่อยู่ด้านหน้ามีโอกาสที่จะเกิดการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมกระพริบไฟบนกระจกด้านหน้าและระบบจะชาร์จแรงเบรกเตรียมไว้ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็วเมื่อแตะเบรก ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) สถานการณ์: รถคันหน้ากำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและรถของคุณก็วิ่งตามมาด้วยความเร็ว คำตัดสิน: ป้องกันโอกาสการชน กรณีรถคันข้างหน้าชะลอความเร็ว การดำเนินการ: ควบคุมระดับความเร็วของรถและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าของคุณให้คงที่ วิธีการทำงาน: เมื่อตั้งค่าควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ ระบบจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัย โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรกตามคันหน้า ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) สถานการณ์: รถของคุณกำลังวิ่งอยู่บนถนนที่ค่อนข้างมืด คำตัดสิน: ผู้ขับลืมเปิดไฟสูง การดำเนินการ: ควบคุมการเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติเพื่อลดอุบัติเหตุ วิธีการทำงาน: ระบบนี้ใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าตรวจสอบสภาวะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อบริเวณนั้นมืดมากพอและไม่มีแสงไฟจากรถคันอื่นๆ โดยรอบ ระบบจะทำงานเปิดไฟสูงเองอัตโนมัติ และเมื่อตรวจจับว่ามีแสงไฟมากพอหรือมีไฟสวนจากรถตรงข้าม ระบบก็จะปิดไฟสูงอัตโนมัติ เทคโนโลยีขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติและเทคโนโลยีช่วยขับขี่กำลังเป็นที่นิยม และมันทำให้ผู้ทดลองใช้ได้เห็นว่า เทคโนโลยีในโลกอนาคตจะเป็นอย่างไร ดังนั้น เตรียมพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีเหล่านี้และเรียนรู้เกี่ยวกับมัน ไม่ว่ามันจะคิดตัดสินแทนเราอย่างไร แต่เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ก็เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวผู้ขับขี่ทั้งสิ้น เห็นหรือยังว่า "ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” แล้วจริงๆ ภาพที่เกี่ยวข้อง ............. คำค้นหา ............. MOTOR EXPO Motor Expo 2017 FORD รถอัจฉริยะ ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง