เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคสมัยแล้ว นอกจากเรื่องราวของความขัดแย้ง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีต่างๆ แล้ว รถโบราณ หรือ รถคลาสสิก

รถโบราณ หรือ รถคลาสสิก ที่ผู้นำโลกแต่ละประเทศเลือกใช้ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ต่างจากเรื่องราวอื่นๆ เพราะ รถโบราณและรถคลาสสิก เหล่านี้มีผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Franklin D. Roosevelt (FDR)

ประธานาธิบดีคนที่ 32 ของสหรัฐอเมริกา เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีถึง 4 สมัยซ้อน เป็นรัฐบุรุษและผู้นำทางการเมืองชาวอเมริกัน ผู้นำชาติฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจผ่านโครงการ New Deal และคว้าชัยชนะเหนือสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สำเร็จ

รถโบราณที่ใช้: Lincoln K-Series V12 Convertible Sunshine Special รถหรูเครื่องยนต์ V12 กำลัง 150 แรงม้า หลังการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ได้ติดตั้งเกาะหนา กับกระจกกันกระสุน น้ำหนักกว่า 4 ตัน ตามคำขอของ หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ (U.S. Secret Service) ทำให้เป็นรถหุ้มเกราะของประธานาธิบดีรุ่นแรก “รถโบราณของรถหุ้มเกราะประธานาธิบดี” ของสหรัฐอเมริกา

ปีที่ใช้: 1939-1945

ใช้ทำอะไร: 1939-1945 นั่งไปประชุมงานต่างๆ ขบวนพาเหรด และพิธีการทางประวัติศาสตร์

หลักคิดในการเลือกใช้: เพราะ FDR ต้องทนทุกข์ทรมานจากโปลิโอ ทำให้ขาของเขาไม่มีแรง จนไม่สามารถใช้งานได้อีก จึงต้องการหารถที่ดัดแปลงให้ขึ้น-ลง ได้ง่าย ซึ่ง Lincoln Sunshine Special ได้ออกแบบมาเพื่อเขา เพื่อควบคุมภาพลักษณ์ มีระบบช่วยให้สามารถนั่งหรือยืนในรถเพื่อโบกมือตอนพบปะประชาชนได้ ในด้านความปลอดภัย ยังมีเกราะ กับกระจกกันกระสุนรอบห้องโดยสาร และสุดท้ายการที่ FDR ใช้รถที่ผลิตในประเทศตัวเอง เป็นการสร้างความมั่นใจให้อุตสาหกรรมในประเทศเพิ่มขึ้นในสายตาประชาคมโลก

ผลิตโดย: Ford Motor Company และ Brunn & Co.

ความลับที่คุณอาจะไม่รู้: Franklin D. Roosevelt เคยใช้ Packard Twelve ดัดแปลงเป็นรถส่วนตัวสำหรับขับเอง แต่รถประจำตำแหน่งของเขาคือ Lincoln K-series Sunshine Special และชื่อ Sunshine Special มาจากการที่รถสามารถเปิดประทุนได้ นับเป็นรถโบราณตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการปรับปรุงรถประจำตำแหน่งให้เป็นรถหุ้มเกราะอย่างเป็นทางการ

อ้างอิง:

https://www.flickr.com/photos/usnationalarchives/31609480232/) | สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution 2.0 Generic (https://creativecommons.org/licenses/by/2.0/deed.en The National Archives

Personal Cars Of The Presidents

President Franklin D. Roosevelt’s “Sunshine Special”

Sir Winston Churchill

นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนที่ 45 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะที่สถานการณ์ย่ำแย่ที่สุด เป็นหนึ่งในเสาหลักของฝ่ายสัมพันธมิตร พาอังกฤษฝ่าฝันหายนะของสงครามโดยไม่ล่มสลาย โดยที่วาทศิลป์ในตำนาน คือ “We shall fight on the beaches, we shall fight on the landing grounds, we shall fight in the fields and in the streets, we shall fight in the hills; we shall never surrender.”

รถโบราณที่ใช้: Humber Pullman Limousine ใช้เป็นทางการบ่อยที่สุด (อาจมีใช้ Rolls-Royce Phantom III, Humber Super Snipe ซึ่งเป็นรถใช้งานของกองทัพ และ Daimler DB18 สำหรับงานพิธีต่างๆ บ้าง)

ปีที่ใช้: 1940–1945

ใช้ทำอะไร: ไปเยี่ยมทหารแนวหน้าทั่วยุปโรปใรช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บางทีไปถึงทวีปแอฟริกา และภารกิจทางทหาร Humber Pullman Limousine แม้จะเป็นรถหรู แต่เป็นรถลุยงานของจริงและไว้ใจได้

หลักคิดในการเลือกใช้: Humber Pullman Limousine ทนทาน ใช้งานได้จริงได้ในสนามรบช่วงสงคราม และแสดงศักยภาพด้านอุตสาหกรรม แม้จะอยู่ในสถานะยากลำบากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังผลิตรถมาใช้งานเองได้ เป็นการปลุกใจได้ในเชิงสัญลักษณ์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในประเทศ ช่วยลดระยะห่างระหว่างผู้นำกับประชาชนและเหล่าทหารในยามวิกฤตนี้

ผลิตโดย: Rootes Group ที่เมือง Coventry ตอนกลางของอังกฤษ ศูนย์กลางผลิตรถยนต์ของอังกฤษในช่วงนั้น

ความลับที่คุณอาจะไม่รู้: Humber Pullman Limousine ทนทาน ใช้งานได้จริงได้ในสนามรบช่วงสงคราม และแสดงศักยภาพด้านอุตสาหกรรม แม้ประเทศจะอยู่ในสถานะยากลำบากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังสามารถผลิตรถมาใช้งานเองได้ เป็นการปลุกใจได้ในเชิงสัญลักษณ์ ช่วยลดระยะห่างระหว่างผู้นำกับประชาชน และเหล่าทหารในยามสงคราม ในหลังสงคราม Humber Pullman Limousine เป็น รถโบราณ ที่นักสะสมนำไปบูรณะและเก็บรักษาไว้ ได้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ Louwman Museum ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์รถยนต์ชื่อดังของโลก

อ้างอิง:

Humber Pullman Mark II, 1948 by auta5p.eu

Louwman Museum: Humber Pullman, formerly owned by Sir Winston Churchill

Richard M. Langworth: Cars & Churchill: Blood, Sweat & Gears (3), Humber

Classic Car Hire: Humber Pullman limousine

Benito Mussolini

ผู้นำเผด็จการของอิตาลี เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิฟาสซิสต์ (Fascism) ควบคุมชีวิต การเมือง ศาสนา สื่อ ไปจนถึงการศึกษา ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีการเลือกตั้งจนถึงปี 1943 พาอิตาลีเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในฝ่ายอักษะ (Axis) มีความต้องการฟื้นฟู “จักรวรรดิโรมัน”

รถโบราณที่ใช้: Benito Mussolini ใช้รถโบราณหลากหลายเนื่องจากพยายามผลักดันยี่ห้อรถยนต์อิตาลี ทำให้รถที่ใช้หลักๆ มีหลายคัน ดังนี้ Alfa Romeo 6C 1750 SS, Lancia Astura และ Fiat 2800 Berlina

ปีที่ใช้: 1930–1943

ใช้ทำอะไร และหลักคิดในการเลือกใช้:

1. Alfa Romeo 6C 1750 SS ใช้ในการแข่งขัน Rome–Ostia คือ กิจกรรมที่ Mussolini ขับรถ Alfa Romeo 6C 1750 SS นำขบวนในกิจกรรม "Il Radio Auto-Raduno" ซึ่งเป็นการรวมตัวของรถยนต์ที่มีการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุ ระยะทางจากกรุงโรมไปยังถึงชายหาด Ostia ประมาณ 30 กิโลเมตร จัดขึ้นเพื่อแสดงอุตสาหกรรมยานยนต์ของอิตาลี

ผลิตโดย: โรงงาน Alfa Romeo ในเมือง Portello, Milan ประเทศอิตาลี

2. Lancia Astura ใช้ในขบวนแห่ งานพิธีต่างๆ พบปะผู้นำต่างประเทศ เยี่ยมเยียนหน่วยทหาร

ผลิตโดย: Lancia โรงงานตั้งอยู่ที่ Torino อิตาลี

3. Fiat 2800 Berlina เป็นรถยนต์ของรัฐบาลอิตาลี และรถประจำตำแหน่งของ Mussolini ใช้ในปลายๆ ยุคฟาสซิสต์ในอิตาลี ส่วนใหญ่ใช้รับ-ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง งานพิธีต่างๆ ขบวนแห่ (มีการอ้างอิงถึงรถคันนี้ว่าเป็นรถที่ Mussolini ใช้หลบหนีช่วงท้ายางคราม)

ผลิตโดย: FIAT (Fabbrica Italiana Automobili Torino) มีบทบาทอย่างมากในอุตสาหกรรมสงครามของอิตาลี

ความลับที่คุณอาจะไม่รู้: ในปี 1943 ประชาชนหมดศรัทธาในลัทธิฟาสซิสต์ของ Benito Mussolini เขาถูกฝ่ายต่อต้านจับได้ที่หมู่บ้านชื่อ Dongo ขณะพยายามหนีข้ามไปสวิตเซอร์แลนด์พร้อมภรรยาของเขา Claretta Petacci และได้พบกับจุดจบที่ไม่สวยงาม หลังสงครามรถโบราณของ Mussolini มีส่วนส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของอิตาลี ทำให้ยี่ห้อเหล่านี้กลายเป็นสัญลักษณ์ความภาคภูมิใจของชาติ มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบและสมรรถนะมาจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิง:

Fiat 2800 Berlinetta Touring

Autoevolution: FIAT 2800 - All Models by Year (1938-1944) - Specs, Pictures & History

Lancia Astura Getty Images: Italian dictator Benito Mussolini's car, a 1939 Lancia Astura... News Photo

The Drive: Mussolini-Owned 1930 Alfa Romeo 6C Unearthed, Headed for Full Restoration

Adolf Hitler

อดีตผู้นำของเยอรมนีใน ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1934-1945) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของประเทศและเศรษฐกิจ ณ ตอนนั้น และเป็นหนึ่งในผู้เริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ

รถโบราณที่ใช้: Mercedes-Benz 770 "Großer Mercedes" (W150 พัฒนามาจาก W07)

ปีที่ใช้: 1934-1945

ใช้ทำอะไร: เป็นรถยนต์ประจำตำแหน่งและสำหรับขบวนพาเหรด ผู้นำระดับสูงของเยอรมนีก็ใช้ด้วย มีการหุ้มเกราะกันกระสุนและกระจกนิรภัย เพื่อความปลอดภัย

หลักคิดในการเลือกใช้: เพื่อแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีวิศวกรรมของเยอรมนีในยุคนั้นของเยอรมนี ตัวรถมีขนาดใหญ่ รูปลักษณ์ที่สวยงามสะท้อนถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ 

ผลิตโดย: โรงงาน Mercedes-Benz ในเมือง Untertürkheim 

ความลับที่คุณอาจะไม่รู้: ช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานการณ์ในเยอรมนีย่ำแย่อย่างหนัก จากการโจมตีของกองทัพโซเวียต และแนวร่วมฝ่ายสัมพันธมิตร Adolf Hitler ซึ่งอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน ได้ตัดสินใจ ปลิดชีพตัวเอง ในวันที่ 30 เมษายน 1945 เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ทำให้เยอรมนีประกาศยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข และถือเป็นการปิดฉากสงครามในยุโรปอย่างสมบูรณ์ มรดกทางอ้อมด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เขาทิ้งไว้ คือ โครงการ "รถยนต์ของประชาชน" คือต้องการให้ชาวเยอรมันทุกคนมีรถเป็นของตัวเอง หลังสงคราม แม้ระบอบของเขาจะล่มสลาย แต่แนวคิดและพื้นฐานของโครงการนี้ ได้วางรากฐานสำคัญให้บริษัทยานยนต์สามารถเติบโตขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก เช่น Volkswagen

อ้างอิง:

Mercedes-Benz Group Website: Mercedes-Benz Plant Sindelfingen

Wikipedia: Mercedes-Benz 770

The History of Official Cars : Hitler's Mercedes 770k (Part 1) I SLICE HISTORY

ภาพโดย: zaphad1 | CC BY 2.0 (ผ่าน Wikimedia Commons)

Joseph Stalin

ผู้นำสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีบทบาทในการนำประเทศเข้าสู่สงคราม และมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมืองโลกในช่วงเวลานั้น เขามีความชื่นชอบรถยนต์อเมริกันอย่าง Packard เป็นพิเศษ เพราะมีรายงานว่า Franklin D. Roosevelt ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มอบรถ Packard Custom Super Eight Convertible Sedan ปี 1938 เป็นของขวัญให้กับเขา และในปี 1930-1940 อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหภาพโซเวียตยังไม่พัฒนาเท่าตะวันตก สหภาพโซเวียตจึงมีการทำข้อตกลง และซื้อเทคโนโลยีจากบริษัทตะวันตกเพื่อนำมาพัฒนาอุตสาหกรรมของตนเอง

รถโบราณที่ใช้: Packard Custom Super Eight One-Eighty (รุ่นปี 1940-1942)

ปีที่ใช้: ต้นปี 1940 จนถึงประมาณปี 1945

ใช้ทำอะไร: เป็นรถประจำตำแหน่งและยานพาหนะส่วนตัวสำหรับผู้นำสูงสุดของสหภาพโซเวียต ใช้รับ-ส่งแขกต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูง ความจำเป็นทางเทคโนโลยี ภาพลักษณ์ โอกาสทางการทูตและการค้า เพื่อแสดงฐานะในเวทีโลก

หลักคิดในการเลือกใช้: เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหภาพโซเวียตยังไม่พัฒนาเท่าตะวันตก ในช่วงเวลานั้นโซเวียตมุ่งเน้นการผลิตรถยนต์ราคาประหยัดสำหรับประชาชน หรือรถบรรทุกทางการทหารเป็นหลัก ทำให้ Packard รถยนต์หรูของอเมริกาที่มีสมรรถนะสูงและมีความน่าเชื่อถือ  ขึ้นชื่อเรื่อง ความแข็งแรงทนทาน และสามารถนำไปเสริมเกราะให้กลายเป็นรถหุ้มเกราะได้ เหมาะสมกับการใช้งานของผู้นำระดับสูง ทำให้มั่นใจในการเดินทางระยะไกล การใช้รถจากประเทศพันธมิตร (USA) สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในช่วงนั้น

ผลิตโดย: Packard Motor Car Company ในสหรัฐอเมริกา

ความลับที่คุณอาจะไม่รู้: แม้จะต่อต้านอุดมการณ์ทุนนิยม แต่ในทางปฏิบัติ คนเราก็ยังคงต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ทำให้หลังสงครามสหภาพโซเวียตใช้รถ Packard เหล่านี้เป็นต้นแบบในการ วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering) เพื่อพัฒนาและผลิตรถของตัวเองขึ้นมา ในชื่อ ZIS-110 และ ZIS-115 (รุ่นหุ้มเกราะ)

อ้างอิง:

Supercars.net: Fit for a Dictator - Stalin's 1936 Packard Phaeton Parade Car

GW2RU: Stalin's cars: What the Soviet leader drove (PHOTOS)

Classicauto.bg: ZIS110 1952

Packard Custom Super Eight