แนวคิด MOTOR EXPO 2014 ก้าวเคียงกัน ยานยนต์อาเซียน

แนวคิด MOTOR EXPO 2014
ก้าวเคียงกัน ยานยนต์อาเซียน

• ในปี 2558 จะเกิดเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ นั่นคือการเปิด “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” อันจะนำมาซึ่งความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่ภูมิภาค

น่ายินดีว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับการส่งเสริมให้อยู่ภายใต้ฐานการผลิตและตลาดเดียวกัน ตามนโยบายของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยประเทศสมาชิกที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

เมื่อเปรียบเทียบกันในภาพรวม อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย นับว่ามีศักยภาพสูงสุด สามารถผลิตรถยนต์ได้ถึงปีละกว่า 2 ล้านคัน ซึ่งครึ่งหนึ่งส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลกในประเภท รถเพื่อการพาณิชย์ขนาด 1 ตัน หรือพิคอัพ และรถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์

อินโดนีเซีย ผลิตรถยนต์มากเป็นอันดับสอง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรัฐส่งเสริมการผลิตรถยนต์ราคาประหยัดรักษาสิ่งแวดล้อม

มาเลเซีย มีขนาดอุตสาหกรรมยานยนต์ใหญ่เป็นอันดับสาม โดยร้อยละ 90 เป็นการผลิตรถยนต์นั่ง รวมถึงรถยนต์แห่งชาติที่ทั่วโลกรู้จักดี

ส่วนฟิลิปปินส์ แม้จะผลิตรถยนต์ปีละไม่ถึง 1 แสนคัน แต่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของอาเซียน ขณะที่เวียดนาม ได้รับความสนใจลงทุนจากผู้ผลิตจีนหลายรายเพื่อใช้เป็นฐานประกอบรถยนต์พาณิชย์ประเภทต่าง ๆ ภายใต้การสนับสนุนจากภาครัฐ

ศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ในทุกประเทศดังกล่าว จะพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ การเคลื่อนย้ายเงินทุนได้อย่างเสรี การปรับลดและยกเลิกภาษีนำเข้าระหว่างกัน การเชื่อมโยง “ห่วงโซ่อุปทาน” หรือเครือข่ายสินค้าและบริการ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนแรงงานมีฝีมือ ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ผู้ประกอบการเกิดความคล่องตัวในการจัดหาวัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องจักร และบุคลากร 

ยิ่งกว่านั้น จำนวนประชากรรวมในภูมิภาคที่สูงถึงกว่า 600 ล้านคน บวกกับการคาดหมายว่า ภายในปี 2561 ตลาดยานยนต์อาเซียนจะมียอดจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 4.7 ล้านคันต่อปี ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก จะดึงดูดให้ผู้ผลิตรายใหญ่ตัดสินใจเพิ่มการลงทุนในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศไทย และประเทศสมาชิกจะได้รับประโยชน์มากมายไม่แพ้ผู้ประกอบการจากการรวมเป็นหนึ่งของอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียน

ที่เห็นได้ชัดคือ เมื่อต้นทุนด้านการผลิตและการจัดการของผู้ประกอบการลดลง ราคาจำหน่ายยานยนต์จะอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากว่าเดิม เมื่อการถ่ายทอดโนฮาวเป็นไปอย่างไร้ข้อจำกัด มาตรฐานและเทคโนโลยีการผลิตจะสูงขึ้น และเมื่อปลอดกำแพงภาษี ในตลาดจะมียานยนต์ประเภทต่าง ๆ ให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ 

ด้วยความตระหนักว่า ผลดีนานัปการของการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อันจะเกิดแก่ผู้ผลิตและผู้บริโภค ย่อมมาจากความร่วมมือร่วมแรงของประเทศสมาชิก ยิ่งกว่าการแบ่งแยกแข่งขันเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่ง เราจึงตั้งใจจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 31” ให้เป็นเวทีแสดงออกถึงความสามัคคี และอนาคตที่สดใสของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้ ภายใต้แนวคิด “ก้าวเคียงกัน ยานยนต์อาเซียน”


Concept of MOTOR EXPO 2014
Moving Forward Together… ASEAN Autos

▪ In 2015 an important economic occurrence will take place, which is the opening of "ASEAN Economic Community" that will bring about tangible cooperation in business and industry among the 10 ASEAN member countries to strengthen and increase competitiveness of the region.

It is gratifying that according to AEC policy the automotive industry is one of the sectors that will be promoted to share the single market and production base, with Thailand, Indonesia, Malaysia, Philippines and Vietnam being member countries investing in the automotive industry. 

In overall comparison, Thailand's automotive industry has the highest potential, capable of producing over 2 million vehicles per year, half of which being exported to overseas markets. Thailand is a significant production base of the world in the category of 1-ton commercial vehicles or pickup trucks and standard energy-saving vehicles or eco-cars.

Indonesia has the second largest auto industry, which is fast growing thanks to the state promotion of low-cost green cars production. 

Malaysia has the third largest auto industry, with passenger cars, including the national car well known worldwide, accounting for 90 percent of the total output. 

Though producing less than 100,000 cars per annum, the Philippines is a major automotive parts manufacturer of ASEAN while Vietnam has attracted many investments by Chinese manufacturers in production bases for various types of commercial vehicle operating under government support.

The potential of the automotive industry in each of the said countries will develop rapidly after the opening of AEC for many reasons, e.g. free flow of capital, reduction and removal of import tariffs among member countries, the linking of "supply chain" or networking of products and services as well as mobility of skilled labour, resulting in flexibility for operators in procuring raw materials, equipment, machinery and personnel. 

Moreover, the over 600 million total population of the region combined with the expectation that by 2018 the ASEAN automotive market size will be over 4.7 million vehicles per year, ranking sixth in the world, will entice major manufacturers to step up investment in the region on a continuing basis.

As for consumers, both in Thailand and member countries, they also will benefit just as much as operators from the integration of ASEAN auto industry. 

It is evident that if the production and managerial costs of operators are reduced, vehicle prices tend to represent better value for money. When knowhow can be transferred without restriction, production standards and technologies will be higher. And after the fall of the tariff barrier, a wide variety of vehicles will be available in the market for buyers to choose from.

With the realization that the many benefits to producers and consumers made possible by the opening of AEC will be derived more from collaboration of the member countries than through competition to achieve a dominant position, we thus intend to organize “THE 31st THAILAND AND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2014” to project unity and a bright future for the auto industry in the region, under the concept “Moving Forward Together… ASEAN Autos”.