Kawasaki ยกทัพจัดหนัก ! จัดเต็ม ! อัดพโรโมชันแรงส่งท้ายปี

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกทัพจัดหนัก ! จัดเต็ม ! อัดพโรโมชันแรงส่งท้ายปีในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" หรือ Motor Expo 2018 ในปีนี้ คาวาซากิ ได้นำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดมาจัดแสดงหลากหลายสายพันธุ์ เพื่อส่งมอบความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ชาวไทยได้สัมผัสสุดยอดเทคโนโลยีของรถจักรยานยนต์ Kawasaki ทั้งสายพันธุ์แห่งตระกูล Ninja/Z/Touring/Off-Road และ Classic พร้อมก้าวสู่ประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือระดับไปด้วยกัน Supercharge Your Journey

Ninja H2 SX SE เครื่องยนต์ซูเพอร์ชาร์เจอร์แรงม้าสูง ผสมผสานรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและทันสมัย เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะขั้นสุดยอด การปรับพัฒนารถจักรยานยนต์ที่เร็วที่สุดในสายพันธุ์สปอร์ทให้สามารถขับขี่ได้บนท้องถนน โดดเด่นด้วยการส่งกำลังที่ได้รับการปรับมาเป็นพิเศษ เหมาะกับการขับขี่ระยะทางไกล และการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซูเพอร์สปอร์ทสายพันธุ์แชมพ์ตัวจริง

Ninja ZX-10R Standard และ Ninja ZX-10R SE ที่มาพร้อมระบบชอคอับไฟฟ้า สุดยอดสมรรถนะแห่งสายพันธุ์สปอร์ท ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของ Jonathan Rea กับตำแหน่งแชมพ์โลก 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2015 ติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน ปี 2018 ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโลก FIM Superbike World Championship For the Fearless

Ninja ZX-6R ถูกออกแบบมาเพื่อส่งมอบความสนุกตื่นเต้น ของรถซูเพอร์สปอร์ท ให้เหมาะกับผู้ขับขี่ในทุกระดับทักษะ นำเสนอสมรรถนะอันเหนือชั้นในทุกรอบความเร็วด้วยขุมพลังของเครี่องยนต์ 636 ซีซี อัตราทดใหม่ช่วยให้การตอบสนองในรอบต่ำทรงพลังมากยิ่งขึ้น และแชสซีส์ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยมุ่งเน้นไปที่การใช้งานบนเส้นทางอันคดเคี้ยว เพื่อให้ประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจในทุกสถานการณ์

Ninja400 HG มาพร้อมกุญแจคีย์เลสส์แบบใหม่ ช่วยให้สามารถสตาร์ทรถได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และแฟริงด้านข้างอันโดดเด่นสะดุดตากับลายกราฟิค Ninja ที่ผ่านกระบวนการพ่นสีพิเศษแบบ Magnetic Paint

Ninja400 รูปลักษณ์สปอร์ท โฉบเฉี่ยว ล้ำยุค นับเป็นรุ่นที่แสดงถึงศักยภาพของกระบวนการผลิต จากฐานการผลิตในประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกได้ประจักษ์ถึงสมรรถนะไปอีกขั้นโดยนักบิดสาวชาวสเปน Ana Carrasco จากทีม DS Junior Team ที่ใช้ Ninja 400 ลงทำการแข่งขันตลอดฤดูกาล 2018 สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการเป็นนักแข่งหญิงคนแรกที่คว้าแชมพ์โลกรายการ FIM Superbike World Championship 2018 รุ่น ซูเพอร์สปอร์ท 300 ซีซี

Z Zone

นำทัพโดย Z1000 ซูเพอร์เนเคดสไตล์สปอร์ททรงพลัง ดุดัน โฉบเฉี่ยว ที่สุดของความมีระดับ ด้วยการออกแบบอย่างประณีตตามหลัก Sugomi เครื่องยนต์ทรงพลังทุกรอบความเร็ว ตอบรับการขับขี่ทุกเส้นทาง Z900 HG รูปลักษณ์ชวนสะกดทุกสายตาให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ความสนุกเร้าใจในการขับขี่ ปราดเปรียว อัตราเร่งตอบสนองอย่างราบรื่น ให้ความคล่องตัวสูงในขณะขับขี่ และภายในงานนี้ขอเชิญพบกับซูเพอร์เนเคดไลท์เวท Z400 และ Z250 ดีไซจ์นใหม่ทั้งคันแบบ All-new ที่ผสมผสานไว้ด้วยกลิ่นอายของ Z650 และ Z300 แต่ยังคงความประณีตแบบ Sugomi ตามแบบฉบับของตระกูล Z สมรรถนะเหนือชั้นด้วยขุมพลังและแชสซีส์ใหม่ตอบสนองได้อย่างเต็มกำลังในทุกรอบเครื่องยนต์ ดุดัน ทรงพลัง แต่คล่องแคล่ว ควบคุมง่ายทำให้ขับขี่ลัดเลาะผ่านป่าคอนกรีทได้อย่างช่ำชองรถซูเพอร์เนเคดน้ำหนักเบาแต่ทรงพลังทั้ง 2 รุ่นนี้จะสามารถสะกดทุกสายตาของผู้พบเห็นได้อย่างแน่นอนที่สุดแห่งการพุ่งทะยานสู่ทุกเส้นทาง พร้อมโลดแล่นออกผจญภัยไปทุกที่

มาร่วมเดินทางครั้งใหม่ไปกับ All-new Versys1000 SE รถจักรยานยนต์ทัวริงที่ตอบโจทย์ได้ทั้งการขับขี่ที่สนุกเร้าใจสไตล์สปอร์ทและความสบายในแบบฉบับของทัวริงรูปลักษณ์ใหม่ทั้งคันด้วยเส้นสายที่ถูกออกแบบมาให้มีความลื่นไหลต่อเนื่องสะกดทุกสายตาตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลังเครื่องยนต์สี่สูบเรียงที่ถูกปรับให้ตอบรับได้ฉับไวและทรงพลังมากยิ่งขึ้นแชสซีส์ออกแบบมาให้มีความคล่องตัวสูงพร้อมระบบกันสะเทือนประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้สัมผัสการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้น นอกจากนี้ Versys1000 SE ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้ขับขี่ไม่ว่าคุณจะชอบการขับขี่แบบสปอร์ท หรือทัวริง Versys1000 SE ใหม่ พร้อมเป็นคู่หูสำหรับการผจญภัยไปกับคุณในทุกเส้นทาง

KLX250 และ KLX150 BF รถออฟโรดที่จะพาคุณหลีกหนีความจำเจของป่าคอนกรีทไปสู่การผจญภัยกับเส้นทางธรรมชาติ รูปลักษณ์ปราดเปรียว แข็งแกร่งเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ถือเป็นรถสำหรับสายลุยตัวจริง

โลกแห่งมนต์เสน่ห์ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนใจของรถจักรยานยนต์คลาสสิค Z900RS Café การออกแบบที่ลงตัวในสไตล์คาเฟคลาสสิคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลังมาพร้อมกับโมเดลคลาสสิคที่สร้างขึ้นด้วยความพิถีพิถันเพื่อคงความงดงามในทุกมุมมองและการขับขี่แบบดั้งเดิมของรถตระกูล W ทั้ง W800 W250 และ W175 ที่ส่งต่อความคล่องตัวแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์เรทโรสุดคลาสสิค และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูล W อย่างแท้จริง สำหรับผู้ขับขี่ที่รักอิสระและไม่ต้องการอยู่ในกรอบเดิมๆ Vulcan S Cafe ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ให้กำลังแรงแต่ควบคุมง่าย ผสมผสานกันระหว่างความคลาสสิคกับความทันสมัยได้อย่างลงตัวมาพร้อมกับสีใหม่โดดเด่นสะกดทุกสายตา

ทั้งนี้ Kawasaki ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมชมรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆได้ที่บูธ Kawasaki ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35" หรือ Motor Expo 2018 พร้อมพบกับพโรโมชันพิเศษอีกมากมาย ณ อิมแพคท์ เมืองทองธานี ชาลเลนเจอร์ 1 บูธ G02 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2561 วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น.