Ferrari ไม่ได้มาเปิดบูธ แต่มี 2 ตำนาน และ 2 ตัวแข่ง มาจัดแสดงให้แฟนๆ ม้าลำพองได้ชม

ที่บูธของสมาคมรถโบราณ มี Ferrari ระดับ “คลาสสิค” จัดแสดง 2 คัน เริ่มด้วยรุ่น Ferrari 308 GTB ผลิตขึ้นมาในช่วงปี คศ. 1975-1985 จำนวนผลิต 4,339 คัน เครื่องยนต์ V8 ขนาด 2,927 ซีซี กำลังสูงสุด 236 แรงม้า เป็นซูเพอร์คาร์ในยุคนั้นที่วางเครื่องยนต์วางกลางลำ พร้อมจุดเด่นเรื่องการตอบสนองที่ฉับไว

ถัดมา คือ Ferrari 328 GTS ผลิตขึ้นมาในช่วงปี คศ. 1985-1989 จำนวนผลิต 7,400 คัน (รวมทุกแบบตลอดอายุการทำตลาด) เครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,186 ซีซี กำลังสูงสุด 270 แรงม้า คือ หนึ่งใน Ferrari ที่หลายคนยังถวิลหาในยุคนั้น กับการเปิดประทุนส่วนหลังคา แต่ไม่เปิดทั้งหมด เนื่องจากกฎหมายเรื่องความปลอดภัยในยุคนั้นจำกัดแนวทางการออกแบบของรถสปอร์ทเปิดประทุน

จากรถสปอร์ทระดับตำนาน เราพลิกกลับมาสู่ยุคปัจจุบัน กับตัวแข่งของ Ferrari ในรายการ Thailand Super Series โดยทีมของ Singha เริ่มจาก Ferrari 458 Challenge พื้นฐานจากรุ่น 458 Italia แต่เสริมตัวถัง และระบบรองรับ ตลอดจนเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ให้มีสมรรถนะสูงขึ้นสำหรับสนามแข่ง ขุมพลังขนาด 4,490 ซีซี กำลังสูงสุด 570 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที

คันที่จอดข้างกันในบูธของ Singha คือ Ferrari 458 GT3 ตัวแข่งเต็มขั้นของรุ่นนี้ ตัวถังพัฒนาขึ้นตามสเปคของรถแข่งระดับ GT3 อย่างแท้จริง สมรรถนะสูง มีคุณลักษณะทางอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม เพื่อขับเคี่ยวกับรถแข่งคลาสส์ GT3 รุ่นอื่นได้อย่างสูสี เครื่องยนต์ขนาด 4,497 ซีซี กำลังสูงสุดไม่ระบุชัด แต่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 3 วินาที และความเร็วสูงสุดกว่า 340 กม./ชม.

ดูจากรหัสรุ่นที่ลงท้ายด้วยเลข 8 บ่งบอกว่า Ferrari ทั้ง 4 รุ่นมีความเกี่ยวเนื่องกัน เพียงแต่การถือกำเนิดอยู่ต่างยุคต่างสมัยกันเท่านั้น  สามารถเห็นถึงพัฒนาการของซูเพอร์คาร์ซีรีส์นี้จากค่ายม้าลำพองได้เป็นอย่างดี มาชมกันได้ที่บูธสมาคมรถโบราณฯ และบูธของ Singha ในงาน Motor Expo 2017