Motor Expo 2017 เริ่มขึ้นแล้ว กับรอบสื่อมวลชน มีรถยนต์มากมายหลายรุ่นมาเปิดตัวในงานนี้ รวมถึงอีกหลายรุ่นที่เปิดไม่นานก่อนหน้านี้ และกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างดี (คลิคดูได้ตามลิงค์นี้)

ต้องยอมรับว่าแม้เป็นเพียงรอบสื่อมวลชน และ VIP แต่ครอสส์โอเวอน์ที่มาปรากฎโฉมในบ้านเราครั้งแรก นั่นคือ Toyota C-HR ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในบูธของ Toyota มี C-HR จอดอยู่ 2 คัน คันหนึ่ง (สีแดง) อยู่บนเวที อาจเข้าถึงยากสักหน่อย แต่อีกหนึ่งคันจอดเด่นเป็นสง่าบริเวณมุมด้านหน้าของบูธ และเป็นคันที่โดนรุมสัมผัสจะผู้ที่เข้าชมงาน 

แม้ทาง Toyota จะยังไม่เผยสเปคออกมาชัดเจน รวมถึงรุ่นย่อย และราคา ระบุเพียงว่า ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ไม่เกิน 1,000,000 บาท และรุ่นทอพจะไม่เกิน 1,200,000 บาท เมื่อหันไปมองคู่แข่งตอนนี้อย่าง Honda HR-V ราคาในรุ่นบนจะใกล้เคียงกัน แต่ C-HR มีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ถือว่ายอมรับได้ เพราะ ครอสส์โอเวอ์จาก Toyota ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด และเป็นระบบไฮบริดที่ไม่ธรรมดาเพราะยกชุดมาจาก รถยนต์ไฮบริดขนานแท้อย่าง Prius รุ่นล่าสุด (ตอนนี้ยังไม่มีทำตลาดในบ้านเรา) มั่นใจได้ในเรื่องความประหยัดเชื้อเพลิง

ในวันแรกของการแนะนำตัว Toyota C-HR เรามีโอกาสมองดูรอบคัน รวมถึงภายในเป็นระยะเวลาสั้นๆ รวมถึงข้อมูลจาก Press Kit ทำให้รู้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมจากรถรุ่นนี้

ประการแรก รุ่นย่อยของรถคันนี้ (คันสีน้ำเงิน) คือ Toyota C-HR HV High คาดเดาได้เบื้องต้นว่าน่าจะเป็นรุ่นทอพ (ที่ราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท) เครื่องยนต์ระบบไฮบริด มีรหัส 2ZR-FXE หากดูสเปคคร่าวๆ จากเมืองนอก จะมีพละกำลังตามนี้ เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร VVT-i กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่งกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 72 แรงม้า โดยคร่าวๆ แล้วเชื่อสเปคเครื่องยนต์คงไม่แตกต่างกันมากนัก

นอกจากขุมพลังไฮบริดที่เตรียมนำมาใช้อย่างแน่นอน หลังจากที่ระยะหลังรถยนต์ไฮบริดจาก Toyota ที่ทำตลาดในบ้านเรา มีเพียง Camry Hybrid เท่านั้น นอกจากนี้โครงสร้างตัวถังได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ช่วงล่างด้านหลังแบบปีกนกคู่ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense หลักๆ แล้วประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบครูสคอนทโรลแบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และระบบเตือนการออกนอกเลนโดยไม่เจตนาพร้อมการหน่วงพวงมาลัย ส่วนระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อ มีระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สะดวกและง่ายดายตามสมัยนิยม

นอกจากนี้กระดาษที่ติดอยู่บริเวณกระจกหน้าต่างด้านข้าง ระบุเพิ่มเติมว่า ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (หน้า 2 ข้าง 2 ม่านนิรภัย 2 และบริเวณหัวเข่า 1 ตำแหน่ง) เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ เครื่องเสียง DVD และเนวิเกเตอร์ ถือว่าจัดมาแทบครบครันอย่างน่าพอใจ สำหรับรถยนตืราคา 1 ล้านบาท ++ เช่นนี้ ขณะที่สีตัวถังของรุ่น Hybrid มีให้เลือกถึง 6 สี (Premium Red/Black Roof - Blue Metallic/Black Roof - Radiant Green Metalic/Black Roof - White Pearl Crystal/Metal Stream Metallic/ Attitude Black Mica) และ 3 สีสหรับเครื่องยนต์เบนซิน (White Pearl Crystal/Metal Stream Metallic/ Attitude Black Mica) คาดเดาได้เบื้องต้นว่ารุ่นไฮบริดน่าจะเป็นรุ่นที่ทาง Toyota หมายมั่นปั้นมือในการสร้างยอดขายเป็นหลักสำหรับรถรุ่นนี้

ใครที่กำลังรอ หรือ สนใจ สามารถเปิดจองได้แล้วตั้งแต่ วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หรือ จองผ่านเวบไซท์ www.toyota.co.th/c-hr ช้าก่อน ! ใครที่จองในช่วงนี้ จะได้รับสิทธิ์พิเศษ คือ การออกแบบ C-HR Custom Name Plate ระบุชื่อ และสไตล์ของตัวอักษรได้ตามใจผู้เป็นเจ้าของ โดนจะได้รับเมื่อจอง และออกรถ แต่ถ้าอยากเห็นและสัมผัสตัวจริงเสียงจริงของ Toyota C-HR ตอนนี้มีเฉพาะที่งาน Motor Expo 2017 เท่านั้นครับ !!