Dec 10 , 2016 ‘สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์จัด CEO TALK “พระมหากรุณาธิคุณต่อ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย" การเสวนาครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมียุทธพงษ์ ภาษี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการเสวนา ปนัดดา เจณณาวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมเสวนา เผยว่า กลุ่มอีซูซุ ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมาอย่างต่อเนื่อง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งหมด 4 วาระ ครั้งที่ประทับใจที่สุด คือ ในวาระที่ อีซูซุ ครบรอบการดำเนินธุรกิจ 50 ปีในประเทศไทย เมื่อปี 2550 “ผู้บริหารของ อีซูซุ ได้ทำหนังสือส่งผ่านสำนักพระราชวัง เพื่อขอน้อมเกล้าฯ ถวายเงินจำนวน 50 ล้านบาท แต่พระองค์รับสั่งว่าขอให้เปลี่ยนเป็นรถ อีซูซุ มิว-7 จำนวน 10 คัน เพื่อใช้ในโครงการต่างๆ แต่ กลุ่มอีซูซุ มีความตั้งใจถวายเงิน 50 ล้านบาทอยู่แล้ว จึงได้ทำเรื่องถวายรถยนต์ อีซูซุ มิว-7 อีก 10 คัน ซึ่งพระองค์ทรงปฏิเสธ และรับสั่งว่าหากต้องการถวายเงิน ให้หักค่ารถไปเท่ากับราคาที่จำหน่ายจริง เหลือเท่าไรให้ถวายเงินตามจำนวนนั้น ในวันที่นำเงินเข้าทูลเกล้าฯ และรถเข้าไปน้อมเกล้าฯ ถวาย ทรงทอดพระเนตรรถ อีซูซุ มิว-7 อย่างละเอียด ทรงมีความรู้เรื่องรถยนต์เป็นอย่างมาก ทรงถามหลายเรื่อง เช่น เรื่องกล้องมองหลังที่มีการติดตั้งเป็นครั้งแรก รวมทั้งเรื่องระบบภาษี ทำให้รู้ว่าพระองค์ทรงมีความห่วงใยประชาชนในทุกๆ เรื่องจริงๆ” นพ. สมคนึง ตัณฑ์วรกุล กรรมการบริหารสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวถึง “ราชยานยนต์ในรัชกาลที่ 9” ว่าพระองค์ทรงรู้จักรถยนต์หลายรุ่นเป็นอย่างดี เมื่อทรงพระเยาว์ ประทับที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิทเซอร์แลนด์ มีเส้นทางที่สวยงามและได้ประทับรถยนต์พระที่นั่งในการเดินทางอยู่เสมอ จึงมีความคุ้นเคยกับความเร็วและรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ทรงใช้โดยสารเป็นประจำ พระองค์ทรงมีรถยนต์พระที่นั่งอยู่หลายองค์ ซึ่งแต่ละองค์มีความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน อีกทั้งพระองค์ยังทรงเลือกใช้รถยนต์ให้เหมาะสมกับงบประมาณ เพราะรถยนต์หลายคันต้องใช้งบประมาณของประเทศในการจัดซื้อ รถยนต์พระที่นั่งบางองค์จะถูกใช้งานจนมีสภาพที่ทรุดโทรม เนื่องด้วยถนนหนทางที่พระองค์เสด็จทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่น หลายเส้นทางค่อนข้างทุรกันดาร จึงทรงมีพระราชดำริในการจัดซื้อรถที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก และรถยนต์พระที่นั่งบางองค์ก็ไม่ได้มีราคาสูง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ บุญพีร์ พันธ์วร ที่ปรึกษากลุ่มสยามกลการ และกรรมการมูลนิธิ พระปกเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี กล่าวว่า “นับเป็นโชคดีที่ได้เกิดมาในรัชสมัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถด้านอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง และทรงให้การสนับสนุนตลอดมา ทั้งการผลิต การนำเข้าและส่งออก รวมทั้งการสร้างถนนและสะพานเพื่อความสะดวกในการคมนาคม พระองค์ทรงให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ว่าจะนำความเจริญมาสู่ประเทศไทย และรถยนต์พระที่นั่งของพระองค์ยังเป็นรถที่มุ่งเข้าไปทุกพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของราษฏร ซึ่งพระองค์ท่านได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อประชาชนว่า หากประชาชนไม่ทอดทิ้งพระองค์ พระองค์ก็ไม่ทอดทิ้งประชาชน” ภาพที่เกี่ยวข้อง .............