เปรียบเทียบ รถ SUV 1.2-1.7 ล้าน คันไหนคือคันที่ใช่??

ในงาน Motor Expo 2014 หนึ่งในประเภทรถยนต์ที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ชมงานเป็นอย่างมาก  คือรถยนต์ Midsize SUV หรือ รถยนต์นั่งเอนกประสงค์ขนาดกลาง ที่มีราคาระหว่าง 1.2-1.7 ล้านบาท ซึ่งรถเหล่านี้ถูกสร้างบนพื้นฐานของรถ Sedan แต่สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จึงเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บวกกับในตอนนี้ มีตัวเลือกจากหลายแบรนด์ ซึ่งรถ SUV จากแต่ละค่าย ก็จะมีจุดเด่นที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เราลองมาดูกันว่า มีรถอะไรกันบ้าง

Nissan X-Trail 2015

SUV รุ่นใหม่ล่าสุด เปิดตัวรอบสื่อมวลชลเป็นครั้งแรกเพียง 1 สัปดาห์ก่อนงาน Motor Expo 2014 ซึ่งทาง Nissan ยังแถลงอีกด้วยกว่า รถคันนี้คือ No.1 SUV in Japan ด้วยยอดขายปีแรกกว่า 100,000 คัน ชูจุดเด่นด้วยออฟชั่นที่จัดเต็มในรุ่นท๊อป อาทิ หลังคาแก้ว Panoramic Sunroof และ ประตูท้ายเปิดปิดอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยที่ครบครันมาให้ทุกรุ่นย่อย และเบาะนั่งแถวหลังแบบ 5+2 ที่นั่ง
เครื่องยนต์ มี 2 แบบให้เลือก ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รุ่นใหม่พร้อมระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบไดเร็กอินเจ็กชั่น โดยติดตั้งในรุ่นนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงที่ 200 นิวตันเมตร และ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร  บล็อคเดียวกับที่อยู่ใน Teana 2.5XV รุ่นปัจจุบัน ให้กำลังสูงสุดที่ 171แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 233 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับ เกียร์ CVT พร้อม Manual Mode ที่ล็อคอัตราทดได้ 7 speed มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ราคา 1.172 ล้านบาท, 1.246 ล้านบาท, 1.325 ล้านบาท, 1.551 ล้านบาท 

Chevrolet Captiva

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการ SUV 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน แบบจัดเต็มในรุ่น LTZ พร้อมกับเปิดตัวรุ่น Sport Edition ในงาน Motor Expo 2014 เสริมชุดแต่งรอบคัน ไฟ DRL และกล้องถอยหลัง
เครื่องยนต์มี 2 แบบให้เลือก ทั้งเบนซินที่รองรับ E85 และดีเซล เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมด +- มีทั้งรุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อให้เลือก ราคา 1.298 ล้านบาท, 1.425 ล้านบาท, 1.610 ล้านบาท, 1.625 ล้านบาท, 1.734 ล้านบาท, 1.744 ล้านบาท

Mazda CX-5

รถ SUV รุ่นล่าสุดจาก Mazda เปิดตัวเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาว ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งคัน ที่ช่วยให้รถทั้งคันมีน้ำหนักเบา อัตราเร่งดี และประหยัดน้ำมัน แม้จะมีขนาดตัวถัง และพื้นที่ภายในที่ออกจะเล็กกว่าคู่แข่ง แต่ก็ทดแทนด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า และกำลังเครื่องที่เหนือกว่า ในรุ่น เบนซิน 2.5 ลิตร และ ดีเซล 2.2 ลิตร
เครื่องยนต์มีถึง 3 แบบให้เลือก เริ่มต้นที่เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที  เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 256 นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบต่อนาที และในรุ่นขับเคลือนสี่ล้อ (AWD) ตัวท๊อปสุด จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 4 สูบ 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ทุกรุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีราคาตั้งแต่ 1.2 ล้านบาท, 1.3 ล้านบาท, 1.44 ล้านบาท, 1.67 ล้านบาท

Subaru XV

นี่คือรถยนต์รุ่นที่เป็นยอดขายหลักของ Subaru ประเทศไทย เพราะเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ แถมยังทำราคาออกมาได้น่าคบหาเป็นอย่างมาก ชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Boxer สูบนอน เอกลักษณ์ของ Subaru ทุกรุ่น และระบบขับเคลื่อนแบบ Symmetrical All Wheel Drive ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนทางหลวง และทางออฟโร๊ด และได้แนะนำรุ่น STi Performance Package ที่มาพร้อมกับชุดแต่งรอบคันจาก STi และเหล็กค้ำโช้คหน้าในงาน Motor Expo 2014 ด้วย
เครื่องยนต์มีให้เลือกเพียงแบบเดียว คือ เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย พร้อมออฟชั่นที่แตกต่างกันไป มีราคาตั้งแต่ 1.25 ล้านบาท, 1.29 ล้านบาท, 1.39 ล้านบาท

Honda CR-V

ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2012 แต่ในงาน Motor Expo 2014 ทางฮอนด้าก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นปรับโฉม ปรับเปลี่ยนภายนอกให้ดูทันสมัยสมกับเป็น SUV ยุค 2015 มาก พร้อมกับเปลี่ยนเกียร์จากออโต้ 5 สปีด เป็นเกียร์ CVT ในรุ่นเครื่อง 2.4 ลิตร จุดเด่นอยุ่ที่ EarthDream Technology ของ Honda ที่ช่วยให้เครื่องยนต์และเกียร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ และเป็นรุ่นเดียวที่รองรับน้ำมันเบนซิน E85
เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ เบนซินรองรับ E85 คือ 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเครื่อง 4 สูบ 2.4 ลิตร กำลังสูดสุด 175 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีให้เลือกทั้งรุ่น ขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มีราคาตั้งแต่ 1.2 ล้านบาท, 1.325 ล้านบาท, 1.495 ล้านบาท, 1.58 ล้านบาท

Hyundai Tucson

รถ SUV จากค่ายฮุนได เป็นรถนำเข้าจากเกาหลีทั้งคัน จึงทำให้มีราคาสูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย โฉมนี้เปิดตัวมาสักพักใหญ่ๆ และมีการปรับโฉมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อปรับหน้าตาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และปรับออฟชั่นให้ลงตัวกับราคามากขึ้น โดยมีจุดเด่นที่งานออกแบบภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ตามคอนเซ็ป Fluidic Sculptre Design โดยรวมถือว่าเป็นรถที่มีความโดดเด่นพอสมควร เมื่อได้พบเห็นบนท้องถนนเมืองไทย
ในปัจจุบัน เครื่องยนต์มีเพียงแบบเดียวให้เลือก ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างหน้าสนใจอยู่ไม่น้อย คือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้เลือกราคาเดียว คือ 1.69 ล้านบาท

สำหรับผู้ซื้อที่กำลังเลือกซื้อรถชนิดนี้ ก็ถือว่ามีตัวเลือกให้เลือกค่อนข้างเยอะ จากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งรถ SUV ของแต่ละค่าย ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน ดังนั้น ถ้าอยากรู้ว่าคันไหนคือคันที่ใช่ มีอยู่ทางเดียว คือต้องมาสัมผัส และทดลองขับด้วยตัวเองครับ