เปรียบเทียบ MINI VAN 7 ที่นั่ง กว้างและคล่องตัว
ในเดือนธันวาคมของทุกๆ ไป ถือว่าเป็นเดือนแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศ เพราะมีทั้งวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 3 วัน แถมยังใกล้วันหยุดยาวช่วงปีใหม่ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะมีแผนที่จะไปเที่ยวกับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อพาคุณลูกไปเที่ยว หรือบางครอบครัวก็ คุณลูกพาคุณพ่อไปเที่ยว เพื่อที่จะได้ใช้เวลาร่วมกัน วันนี้ ทาง Motor Expo จะพาทุกท่าน ไปชมรถยนต์นั่งแบบ Mini Van หรือรถยนต์ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก เพื่อรองรับการใช้งานแบบครอบครัว แต่ก็ยังง่ายต่อการขับขี่ไม่ต่างจากรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
Honda Mobilio
เริ่มจากคันแรกกันเลย Honda Mobilio รถยนต์ Mini Van รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Honda แม้จะพึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค แต่อาจจะยังเห้นไม่มากนักบนท้องถนน เพราะยังทยอยส่งมอบกันอยู่ ดูหน้าตาออกจะละม้ายคล้ายคลึงกับ Honda Brio สักหน่อย เพราะสร้างมาจากพื้นฐานเดียวกัน แต่มีลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน
Honda Mobilio ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับ Jazz/City รุ่นก่อนหน้านี้เป๊ะ ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ล็อคอัตราทดได้ 7 จังหวะ และ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด มาในรูปแบบรถยนต์ Mini Van 7 ที่นั่ง น้ำหนักตัวรวมอยู่ที่ 1,223 กิโลกรัม สำหรับรุ่นท๊อป มีราคาตั้งแต่ 597,000 - 739,000 บาท (รุ่นเริ่มต้น จะไม่มีเบาะแถว 3 มาให้) มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เห็นได้ชัดว่า Honda Mobilio มาในราคาที่ย่อมเยากว่า Honda Freed ซึ่งเป็น มินิแวน 7 ที่นั่งเหมือนกัน เพราะถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Honda Brio แทนที่จะเป็น Jazz บวกกับมีการตัดออฟชั่นที่ไม่จำเป็นอย่าง ประตูเลื่อนไฟฟ้าออกไป
อย่างไรก็ตาม แม้จะเคลมว่านั่งได้ 7 คน แต่ดูเหมือนว่าเบาะที่สามารถนั่งได้สบายจริงๆ คงจะเป็นเบาะคู่หน้า และเบาะแถว 2 เพราะมีพื้นที่เหลือเฟือ และไม่ต้องนั่งชันเก่า ส่วนเบาะหลัง จะเหมาะสำหรับเด็กๆ หรือเดินทางในระยะที่ไม่ไกลนักมากกว่า ด้วยความที่พื้นของด้านท้ายรถ ถือว่าค่อนข้างสูง
Suzuki Ertiga
รถยนต์ 7ที่นั่งจากค่าย Suzuki ที่พัฒนาต่อยอดมาจากพื้นฐานของ Suzuki Swift Eco จึงทำให้หน้าตาออกมาคล้ายๆ กัน เช่นเดียวกับที่ Mobilio คล้าย Brio แต่สำหรับ Ertiga หน้าตาทั้งภายนอกและภายในจะออกแนวเรียบๆ ดูไม่หวือหวาเหมือน Mobilio
Suzuki Ertiga ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ลากน้ำหนักรถรวมที่ 1,265 กิโลกรัม ซึ่งต้องยอมรับว่า ด้วยซีซีที่น้อยกว่า กำลังเครื่องน้อยกว่า ก็มีแนวโน้มที่อัตราเร่งอาจจะด้อยกว่าคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ราคา 554,000 - 639,000 - 689,000
สำหรับรุ่นนี้ ดูเหมือนว่า เบาะนั่งแถว 3 จะสามารถทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด สามารถนั่งท่าปกติได้ ไม่ต้องนั่งชันขา และพอมีพื้นที่ให้ยืดขาได้บ้าง ขึ้นกับการปรับตำแหน่งเบาะแถว 2 ด้วย
Chevrolet Spin
แม้จะมีที่นั่งทั้งหมด 7 ที่นั่ง เช่่นเดียวกับคู่แข่ง (หน้า 2 คน, กลาง 3 คน, หลัง 2 คน) แต่สำหรับ Spin ทาง Chevrolet กลับระบุให้มันเป็นรถยนต์ 6 ที่นั่ง สังเกตจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็จะเห็นว่า มันแอบดูบึกบึนมากกว่าคู่แข่งเล็กน้อย ด้วยการออกแบบด้านหน้ารถที่ดูแข็งแกร่ง ตามรุ่นพี่ของมันอย่าง Chevrolet Captiva และ Chevrolet Trailblazer บวกกับพื้นที่ใต้ท้องรถที่ดูเหมือนจะสูงกว่าคู่แข่งนิดหน่อย มองบางมุม ก็จะดูคล้ายๆ รถ SUV
Chevrolet Spin ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แม้กำลังเครื่องจะไม่ได้น้อยกว่าคู่แข่ง แต่ก็ต้องลากน้ำหนักตัวถึง 1,277 กิโลกรัม ซึ่งดูออกจะหนักกว่าเค้าเพื่อน คงต้องมาลองขับเอง
ภายในรถ ออกแบบมาในแนวทางเดียวกับ Chevrolet Sonic เบาะนั่งมีรูปทรงที่ดูเป็นแผ่น แต่ก็ถือว่านั่งสบายใช้ได้ เบาะนั่งแถว 3 สามารถนั่งในท่าปกติได้ โดยไม่ต้องชันขามากนักเช่นเดียวกัน มีรุ่นย่อยให้เลือกรุ่นเดียว ก็คือรุ่น Full Option ที่ราคา 762,000 บาท อาจมีจุดเด่นที่ช่วงล่างตามสไตล์ Chevrolet ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องมาทดลองด้วยตัวเอง
Proton Exora
รถ Mini Van จากประเทศมาเลเซีย แม้จะมีราคาแรงกว่าเล็กน้อย แต่ก็ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งทั้งหมด งานออกแบบภายนอก เป็นสไตล์เรียบหรู เน้นความเหลี่ยมสัน แต่ก็มีจุดที่โค้งมาบ้าง ไม่ได้ดูล้ำสมัย แต่ก็ลงตัวดี
ด้วยความที่มีตัวถังขนาดใหญ่กว่า จึงต้องใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ รุ่นมาตรฐาน 125 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร (ราคา 749,000-789,000 บาท) และรุ่นเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร (ราคา 879,000-919,000 บาท) ด้วยความที่ตัวถังมีขนาดใหญ่กว่า จึงนั่งสบายกว่ารุ่นอื่นๆ แถมยังเอนเบาะได้ด้วย แต่นั่นก็มากับราคาค่าตัวที่แพงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นท๊อปสุด เริ่มใกล้ล้านเข้าไปแล้ว
อยากรู้ว่าคันไหนสวยที่สุด นั่งสบายที่สุด อย่าลืมมาชมตัวจริงได้ที่ Motor Expo 2014 ครับ!