หนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คือ บริษัทแม่ของ Mitsubishi Motors ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 Mitsubishi Heavy Industries (MHI) ผลิตตั้งแต่ เรือรบ โรงไฟฟ้า รถไฟ รถบรรทุก ไปจนถึง เครื่องจักรหนัก และยังผลิตเครื่องบินรบ Mitsubishi Zero ในตำนาน ให้กับกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น
- Mitsubishi A6M "Zero" คือ เครื่องบินขับไล่เบา ที่คล่องตัว รุนแรง และระยะบินไกล เฉลี่ยไกลสุด 3,000 กิโลเมตร (ถ้าน้ำมันเต็มถัง บินจากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ และบินกลับกรุงเทพ โดยไม่ต้องแวะปั๊ม) ออกแบบเพื่อใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบิน (Aircraft Carrier)- Mitsubishi Zero มีบทบาทสำคัญในการบุก "ยุทธการเพิร์ลฮาร์เบอร์" (Attack on Pearl Harbor) ในวันที่ 7 ธันวาคม 1941 โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องบินขับไล่คุ้มกัน (Escort Fighter) ให้เครื่องบินทิ้งระเบิดอีกที และโจมตีภาคพื้นบางส่วน - การบุกครั้งนี้ทำให้กองทัพเรืออเมริกัน สูญเสียทหารไป 2,403 นาย เรือประจัญบานจม 4 ลำ เครื่องบินรบเสียหายกว่า 300 ลำ และพลเรือนเสียชีวิตอีก 68 คน นับเป็นฝันร้ายของกองทัพเรืออเมริกัน- ญุี่ปุ่นก็สูญเสียเครื่องบิน 29 ลำจากการโจมตี Pearl Harbor ในจำนวนนี้ 9 ลำ คือ Mitsubishi Zero จากเครื่องบินทั้งหมด 353 ลำ- เป็น สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและอำนาจของญี่ปุ่น (ช่วงต้นสงคราม) ทำให้กองทัพอเมริกันรู้ว่า “เครื่องบินญี่ปุ่นไม่ได้กระจอก”
- ไม่มีเกราะป้องกันบริเวณห้องนักบิน และไม่มีถังน้ำมันป้องกันไฟ ถ้าโดนยิงเต็มๆ โอกาสรอดนักบินแทบจะ = 0%- มีปืน 4 กระบอก บรรจุกระสุนได้น้อย ประมาณ 60-100 นัด ต้องยิงให้แม่น สู้เครื่องบินฝั่งตะวันตกไม่ได้- Mitsubishi Zero มีพัฒนาเรื่อยๆ โดยการเพิ่มเพิ่มเกราะ-ปืนแรงขึ้น แต่ระยะบินลดลง แต่ก็ยังสู้เครื่องบินรุ่นใหม่ของฝั่งพันธมิตรที่ออกมาทีหลังไม่ได้ เช่น Grumman F6F Hellcat และ Vought F4U Corsair- ช่วงท้ายสงคราม Mitsubishi Zero ถูกพัฒนาให้เครื่องยนต์แรงขึ้น 2,000 แรงม้า และหลายลำถูกใช้ในภารกิจ คามิกาเซ่
เครื่องบิน คามิกาเซ่ พุ่งชนเรือรบสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 1945
ชื่อ Mitsubishi Zero มาจากปีที่เครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการ คือปี 2600 (1940) ตามปฏิทินจักรพรรดิญี่ปุ่น (皇紀)เลยตั้งชื่อว่า "Type 0 Carrier Fighter" หรือ “Rei Shiki” (零式) = คือ "แบบศูนย์"Rei (零) = ศูนย์Shiki (式) = รุ่น/แบบจึงกลายเป็น Mitsubishi Zero เพราะมันเกิดในปี 2600 ของฏิทินจักรพรรดิญี่ปุ่น
Mitsubishi A6M Type 0 Carrier Fighter รหัส A6MA = ประเภทเครื่องบินขับไล่ (Carrier Fighter) ญี่ปุ่นใช้รหัส A เป็นรหัสภายในของ กองทัพเรือญี่ปุ่น6 = รุ่น 6 ที่กองทัพเรือญี่ปุ่นอนุมัติ Mitsubishi ออกแบบให้กองทัพเรือM = Mitsubishi
เครื่องบินรบ Zero กำลังบินออกจากเรือบรรทุกเครื่องบิน Shōkaku ของญี่ปุ่น ในยุทธนาวีที่คอรัลซี
Mitsubishi Zero จากเครื่องบินรบกลายเป็นรถครอบครัว เมื่อเทคโนโลยีจากสงคราม กลายเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมยานยนต์- หลังสงครามโลกจบ ญี่ปุ่นถูกห้ามผลิตอาวุธ และถูกสั่งให้แยกกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (Zaibatsu) ทำให้ Mitsubishi แตกออกเป็นหลายบริษัท และได้ปรับตัวมาผลิตรถยนต์ ครื่องจักรต่างๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ- Mitsubishi เปิดตัวรถ Mitsubishi 500 ในปี 1960 รถครอบครัวนั่งขนาดเล็กคันแรก แต่ยังอยู่ในสายการผลิตของ (MHI)- Mitsubishi Motors Corporation (MMC) แยกออกเป็นนิติบุคคลเฉพาะทางด้านรถยนต์ ในปี 1970- Mitsubishi Motors Corporation (MMC) ยังอยู่ในเครือ Mitsubishi Group และ Mitsubishi Heavy Industries (MHI) ถือหุ้นบางส่วน แต่ไม่ถือใหญ่แบบเมื่อก่อน
จากภาคอุตสาหกรรม ที่เคยผลิตเครื่องบินรบ ก็ปรับตัวกลายมาเป็นหัวใจของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ และสร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล
Mitsubishi A11 500
เครื่องบิน Mitsubishi A6M Zero จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Pearl Harbor Aviation Museum, ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
#Mitsubishi#MitsubishiZero #A6M#Zero#Fighter #MitsubishiMotors #รถกับสงคราม #ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
Follow Motor Expo Club Network