Mar 15 , 2016 10 รายจ่ายที่ต้องรู้ ก่อนมีรถ ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ด้วยความต้องการรถยนต์ในแต่ละปีที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ผู้คนจำนวนมาก ต้องการมีรถยนต์คันแรกเป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม การจะเป็นเจ้าของรถยนต์สัก 1 คัน มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายรายการ นอกเหนือจาก ค่าตัวรถ จึงเป็นที่มาคำถามว่า ซื้อรถแล้ว ต้องจ่ายอะไรบ้าง? 1. ค่า พ.ร.บ. รายปี พ.ร.บ. คือ การประกันรถยนต์ภาคบังคับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ปีละ 600-1,200 บาท บางครั้งก็เป็นค่าใช้จ่ายที่พ่วงมากับประกันภัยรถยนต์ หรือบางครั้งก็ต้องซื้อแยกต่างหาก 2. ค่าต่อทะเบียน ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500-3,000 บาทต่อปี ยิ่งรถที่มีขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ก็ยิ่งเสียภาษีส่วนนี้แพงขึ้น สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี ต้องนำรถไปตรวจสภาพด้วย 3. ค่าประกันภัย ประกันภัยรถยนต์ จะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดจากภัยจากรถยนต์ ซึ่งโดยทั่วไป มีให้เลือกประกันชั้น 1-3 หรือแล้วแต่ข้อเสนอของแต่ละบริษัท ซึ่งเบี้ยประกันที่สูงขึ้น ก็จะคุ้มครองรถเราได้มากขึ้น โดยเฉลี่ยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 6,500 บาท ถ้าประกันชั้น 1 สำหรับรถยนต์บ้านๆ เฉลี่ยอยู่ที่ ปีละ 12,000-20,000 บาท ยิ่งรถแพงเท่าไหร่ ค่าเบี้ยประกันก็ยิ่งแพงขึ้น 4. ค่าบำรุงรักษา รถยนต์ย่อมมีการสึกหรอ จึงต้องมีการบำรุงรักษา โดยเฉลี่ยทุก 6-12 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายก็แตกต่างกันไป ขึ้นกับ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ การใช้งาน และความสามารถในการถนอมรถของแต่ละคน แม้จะเป็นรถยนต์ธรรมดาๆ ค่าดูแลรักษาที่เหมาะสมมักจะอยู่ที่ ปีละ 5,000-10,000 บาท แต่ถ้าเป็นรถยนต์ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น หรือรถยนต์ที่เริ่มเก่า ค่าบำรุงรักษาอาจสูงถึงหลายหมื่นบาทต่อปี 5. ค่ายางรถยนต์ ยางรถยนต์ ถือเป็นอีกชิ้นส่วนที่สำคัญมากๆ เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับถนน ยางที่หมดสภาพแล้ว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ดังนั้น ไม่ควรละเลยที่จะเปลี่ยนยางตามระยะทาง และเวลาที่เหมาะสม โดยทั่วไปแนะนำให้เปลี่ยนทุก 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพการใช้งาน โดยราคายางรถยนต์ มีตั้งแต่ ชุดละไม่เกิน 10,000 บาท จนถึง หลายหมื่นบาท ขึ้นกับรุ่น ยี่ห้อ ขนาดของยาง แต่โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ ชุดละ 10,000-20,000 บาท 6. ค่าน้ำมัน ค่าเชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่ยากจะระบุตายตัว เพราะราคาน้ำมันผันผวนตลอดเวลา อีกทั้งการใช้งานของแต่ละคน อาจต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ใช้รถทุกวัน ค่าเชื้อเพลิงมักเกิน 3,000-5,000 บาท สำหรับรถคันเล็ก ยิ่งรถคันใหญ่ หรือรถที่มีอัตราบริโภคน้ำมันสูง ค่าเชื้อเพลิงจะสูงกว่านี้ และอาจถึง 10,000 บาทต่อเดือน วิธีลดค่าเชื้อเพลิงคือ ปรับเปลี่ยนนิสัยการขับขี่ให้เหมาะสม วางแผนการเดินทางให้ดี 7. ค่าทางด่วน สำหรับบางคนที่บ้านอยู่ไกลจากที่ทำงาน การใช้ทางด่วน อาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลี่ยงได้เลย เพราะต้องเดินทางระยะไกล แถมยังต้องฝ่าฟันการจราจรที่ติดขัดในแต่ละวัน โดยอัตราค่าทางด่วนในปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 50-100 บาทต่อการขึ้น 1 ครั้ง สำหรับคนที่ขึ้นทางด่วนทุกวัน ค่าทางด่วนแต่ละเดือน อาจสูงถึง 3,000-4,000 บาท 8. ค่าที่จอดรถ สำหรับคนที่อยู่หอพัก คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ที่มีความแออัดสูง หรือคนที่ขับรถไปทำงานในย่านธุรกิจ การเช่าที่จอดรถประจำ ในราคา 1,500-5,000 บาทต่อเดือน กลายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ รถยนต์ส่วนตัว เกิน 7 ที่นั่ง ที่ล่าสุด กรมการขนส่งทางบกออกระเบียบใหม่ในการจดทะเบียน ว่าจะต้องมีที่จอดรถภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดชัดเจน 9. ค่าล้างรถ ค่าใช้จ่ายในการล้างรถ อาจตกเดือนละหลายพันบาทก็เป็นได้ วิธีช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ คือการหันมาล้างรถด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากแล้ว ยังสามารถเลือกอุปกรณ์และน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดรถได้ตามต้องการอีกด้วย 10. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว อาจมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ที่อาจตามมาโดยไม่ได้คาดหมาย เช่น ค่าปรับจากการขับรถผิดกฎจราจร ค่าใช้จ่ายในการแต่งรถ ค่าอุปกรณ์ติดรถต่างๆ ซึ่งไม่ได้ถูกคิดรวมไว้ในรายการ เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว ผู้ที่จะซื้อรถควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะตามมา นอกเหนือจากค่างวดผ่อนรถในแต่ละเดือน รวมทั้งคำนวนรายรับ รายจ่ายอย่างละเอียด ว่าสามารถซื้อรถได้หรือไม่ ภาพที่เกี่ยวข้อง ............. คำค้นหา ............. ค่าซ่อมรถ ซื้อรถ ต้องจ่ายอะไรบ้าง ซื้อรถมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง คำนวนค่างวดรถ ผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันรถ ต่อเดือน ประกันรถยนต์ ค่าทางด่วน ค่าใช้จ่าย ซื้อรถ รายจ่าย รถยนต์ ราคาน้ำมัน ดูแล รถยนต์ car maintainance car expense บทความที่เกี่ยวข้อง .............